บ้าน
ไม้ดอก ไม้ประดับ และพืชสมุนไพรเป็นอาหารและยา 
ใบ พืชชนิดใดที่ระบุว่าใบใช้บริโภค และ / หรือ ใช้เป็นยาก็สามารถนำมาบริโภคได้ในหลายรูปแบบ ตั้งแต่บริโภคสดซึ่งได้แก่ ใบจากต้นไม้ผลที่กินได้เกือบทุกชนิด โดยเฉพาะควรบริโภคใบที่ยังอ่อนอยู่จะมีรสดีและมีวิตามิน
และเกลือแร่สูง ได้แก่ ใบยอ ใบขนุน ใบมะม่วง ใบมะขาม ใบมะยม
ใบมะกอก ใบสะเดา และใบมะละกอ ฯลฯ แต่ใบหลายชนิดหากมี
รสขมและฝาดมากก็ควรจะทำให้สุกก่อน หรือใช้ต้ม และแกงต่าง ๆ
และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่นทำเป็นชา โดยการตากแห้งแล้ว
คั้นให้หอม ชงเป็นชาได้อย่างดี หรือดองเป็นผักดองรสต่าง ๆ ได้
และยังช่วยให้เก็บไว้เพื่อบริโภคได้นาน ๆ
ดอก ดอกของไม้ผล ไม้ประดับ และสมุนไพรที่ระบุว่า บริโภคได้หรือเป็นยา ก็สามารถมาทำเป็นชาหรือเครื่องดื่มรูปแบบอื่น ๆ ได้ และ
ส่วนใหญ่สามารถนำมาบริโภคสดได้ เช่น ดอกมะม่วง ดอกมะขาม
ดอกชมพู่ ดอกกุกลาบ ดอกดาวเรือง สามารถบริโภคได้ทั้งสดและสุก ส่วนดอกเฟื่องฟ้า สั่นทม ( ลีลาวดี )
พวงชมพู สามารถบริโภคได้อย่างดีโดยการชุบแป้งทอด
เถา และ / หรือ ลำต้น ของพันธุ์ไม้หลายชนิด มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย และเป็นยารักษาโรคได้หลายอย่าง เช่น เถาตำลึง เถาบอระเพ็ด เถาย่านาง ซึ่งนำมาทำเป็นชาได้อย่างดีด้วย นอกเหนือจากคุณสมบัติและวิธีการใช้ที่ระบุ
ไว้สำหรับพืชแต่ละชนิด
ราก หัว และ / หรือ เหง้า ของพืชจำนวนไม่น้อยมีสรรพคุณเป็นยาที่น่าให้ความสนใจอย่างมาก เช่น รากโสมไทย ช่วยบำรุงสุขภาพ หัวแห้วหมู บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ เหง้าสับปะรด ช่วยขับปัสสาวะ รากหงอนไก่
แก้ท้องอืด รากต้นเทียนบ้าน ช่วยฟอกโลหิต รากตำลึง แก้โรคเบาหวาน รากชะพลู เป็นยาขับลม แนวทางการ
ใช้ ส่วนใหญ่ของราก หัว และเหง้า เหล่านี้คือ การล้างให้สะอาดแล้วต้มน้ำดื่ม หรือหั่น ตากแห้ง แล้งชงเป็นชา
ดื่มได้ระยะยาว
การเลือกบริโภคผัก ผลไม้ และสมุนไพรให้ได้ประโยชน์สูงสุด 1. วิตามินซีสูง ควรบริโภคสด ยิ่งบริโภคทันทีที่เก็บจากต้นยิ่งดี เพราะวิตามินซีสลายตัวได้ง่ายเมื่อถูกอากาศ
และความร้อน ควรล้างผัก ผลไม้ ให้สะอาด ก่อนที่จะหั่น ไม่ควรหั่นแล้วนำไปล้างน้ำ เพราะวิตามินซีจะละลายไปกับ
น้ำ ดังนั้นจึงควรปลูกผัก และผลไม้รอบ ๆ บ้าน เพื่อจะเก็บมาบริโภคได้ทันที ซึ่งจะช่วยให้ได้รับวิตามินซีอย่างเต็มที่
ผักหลายชนิดสามารถปลูกในกระถางได้เช่น ผักชีล้อม สะระแหน่ โหระพา เป็นต้น
2. วิตามินเอสูง มักพบในผัก ผลไม้ ที่มีสีเขียว สีเหลือง สีแดง และสีส้ม ควรบริโภคพร้อมไขมันเพราะวิตามินเอ
จะละลายได้ดีในไขมัน ซึ่งช่วยทำให้ร่างกายนำวิตามินเอไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ คนโบราณมีการนำกะทิราดบนผัก
ที่ลวกเพื่อบริโภคกับน้ำพริก นับเป็นภูมิปัญญาของคนสมัยก่อนที่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน ผลไม้สดที่ให้
วิตามินเอสูง เช่น มะละกอสุก ถ้าบริโภคหลังอาหารทันทีก็จะได้อาศัยไขมันที่มีในอาหารหลาย ๆ ชนิด เป็นตัวพา
วิตามินเอไปใช้ประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น
ใช้อาหาร เป็นยา และหมักก็ได้นิ 
ลุงหมอ
