ลุงหมอ สวนโพธิ์

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

+5
seksan
มด
อู๊ดดี้
thanita
ลุงหมอ
9 posters

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Fri Jun 24, 2011 10:46 am

    Very Happy Smile Laughing Rolling Eyes
    Rolling Eyes sunny cheers วิธีที่แน่ะนำ และ ถูกต้องที่สุด เมื่อได้รับ น้ำหัวเชื้อ ไปจากกระผมคือ? ต้มน้ำ ที่ได้จาก ในบ่อ หนอง คลอง บึง บาดาล หรือจากสระ ไม่เอาน้ำปะปา ที่ผสมคลอรีน ละกัน นะครับ ?
    1. ต้มน้ำให้สุก
    2. รอให้เย็นตัวลงก่อน Neutral
    Smile 3. ละลายน้ำตาลลงไป 1/5
    cheers 4. เทหัวเชื้อที่ได้ ลงไป
    Laughing 5. แล้ว ปิดให้มิดชิด คลุม แผ่นพลาสติก
    sunny 6. เก็บในที่ร่ม
    ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป จะใช้เป็นหัวเชื้อขยายไม่รู้จบ? flower

    santa และ ตามสูตร วิธีนี้ หัวเชื้อที่ได้มา จากการขยาย เวลาไปใช้ ปริมาณ 1 แก้ว ( 250 CC ) ต่อ ถังหมัก 200 ลิตร affraid หมายความว่า? ...ถ้า ปริมาณ น้ำ 100 ลิตร น้ำผึ้งหรือ น่ำตาล เป็นสารอาหาร ละลายตัว 20 ก.ก. จะใช้ น้ำหัวเชื้อ ผสมเพียง 1 แก้วเป็นอย่างน้อย ( ผมใช้ 1 ขัน 555+ ) ตีหัวเชื้อ ในน้ำ ทิ้งไว้ 5 วัน (เขาจะเริ่ม จับตัวเป็นวุ้นบางๆ) แล้ว จึงเริ่มทะยอยใส วัสดุ ผลไม้ สมุนไพร เพื่อเริ่มการ หมักเอ็มไซน์ ? วัสดุ ทุกๆชนิดที่ ทำการหมัก ถ้า บดให้ชิ้นเล็กลง มากที่สุด จะได้ผลดี ที่สุดจ้า ไม่ว่า สมุนไพร * ผลไม้ หรือ พืช * ผัก *** ควรใส่ ข้าวปลาย หรือ ข้าวกล้อง 1 ฝ่ามือ + สับปะรส ทั้งเนื้อและเปลือก บดแล้ว ทุกๆถังจ้า ? ทุกๆถัง ที่เริ่มหมักด้วย วิธีนี้ จะเริ่มนับ อายุได้ 15 ปี ทีถังนั้นๆเริ่ม ครบ 1 ปี กะอีก 4 เดือน นะครับ ปีหน้า กรอง นำไปใช่ แบ้งปัน ได้เลยจ้า บอกละเอียด หมดละนะ? ไม่เข้าใจจุดได ถามได้จ้า เจ้าอาราเร่ทำตามนะ? cherry santa White Wizard.
    thanita
    thanita
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 408
    Join date : 14/06/2011
    ที่อยู่ : ปากช่อง นครโคราช

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  thanita Fri Jun 24, 2011 11:42 am

    "ขอบพระคุณ สำหรับความรู้ดี ดี ที่ ลุงหมอ มีแบ่งปันให้ตลอดค่ะ"


    "เราทำได้....ตอน อานิสงส์ของทาน...... โดย พรหมลิขิต"



    ทุกวันนี้เราทำบุญตักบาตร ทำบุญถวายทอดผ้าป่า ถวายกฐิน สร้างโบสถ์
    วิหาร ศาลาการเปรียญ สุขา อย่างสวยงามประกวดแข่งขันกันบางคนถือว่าบุญใหญ่
    เพื่ออะไร ต้องการอะไร ต้องลดความตระหนี่ในตัวตนหรือเปล่า ต้องการบุญอะไร
    ......สิ่งที่เราสร้างก็เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ประโยชน์สำหรับโลก สำหรับวัดวา
    ศาสนาก็เท่านั้นแหละ ถ้าพูดบุญเราจะมาเอาบุญอะไรกันอย่างนี้...
    เมื่อถึงปรมัตถ์แล้วไม่ต้องการ....

    เพราะสมบัติพัสถานทั้งหลายมันมีประจำอยู่ในโลกนี้ มาอย่างสมบูรณ์
    แต่ผู้ที่ขาดปัญญาและไร้ความสามารถ ก็ไม่อาจจะแสวงหาเพื่อครองสมบัติเหล่านั้นได้
    ย่อมครองตนอยู่ด้วยความฝืดเคืองและลำบากขันธ์
    ส่วนผู้มีปัญญาและมีความสามารถ ย่อมแสวงหายึดสมบัติของโลกไว้ได้อย่างมากมาย
    อำนวยความสะดวกสบายแก่ตนได้ทุกกรณี.....

    ส่วนพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ท่านพยายามดำเนินตนเพื่อออกจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด.........
    ไปสู่ภาวะแห่งความไม่มีอะไรเลย เพราะว่า......
    “ในทางโลก มี สิ่งที่ มี ส่วนในทางธรรม มี สิ่งที่ ไม่มี”

    จะกล่าวถึงอาชีพครูเปรียบเสมือนเรือจ้าง ให้ความรู้แก่ลูกศิษย์ สร้างคน
    สร้างชาติ แต่ใการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อื่น เพื่อให้เขามีความสามารถ
    ประกอบกิจกรรมแบบโลกๆ เช่น สอนคณิตศาสตร์ สอนกฎหมาย
    สอนเล่นเปียโน ล้วนแล้วแต่เป็น ‘วิทยาทาน’ (วิทยาแปลว่าความรู้)

    แต่ถ้าให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อื่น เพื่อให้เขาคิดได้
    เพื่อให้เขารู้จักบาปบุญคุณโทษ สำนึกผิด ละอายต่อบาป
    และเกิดแรงบันดาลใจในการทำดี ถางทางให้ตัวเองพ้นทุกข์ระยะสั้น
    พ้นทุกข์ระยะยาว และพ้นทุกข์อย่างเด็ดขาดถาวร เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็น ‘ธรรมทาน’
    (ธรรมในที่นี้หมายเอาสัจจะความจริง ความดีงาม ความถูกต้อง และความประพฤติชอบ)

    เมื่อทราบนิยามของทานทั้งสองชนิดแล้ว ผมก็จะกล่าวแยกให้เห็นถึงความต่างในเชิงอานิสงส์ดังนี้

    ๑) วิทยาทาน
    ให้ผลคับแคบ กล่าวคือจะทำให้เกิดความฉลาดเฉพาะเรื่อง
    หรือมีความชอบใจเฉพาะด้าน เช่น ในชาตินี้ยิ่งสอนเรื่องเครื่องจักรกลมากขึ้นเท่าไร
    ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องจักรกลก็ยิ่งแม่นขึ้นเท่านั้น
    ใครถามอะไรตอบได้หมด จะศึกษาวิทยาการจักรกลชั้นสูงก็รู้สึกเหมือนขนม
    แต่พอให้เรียนภาษาต่างประเทศกลับอึ้ง ให้พูดกับฝรั่งอาจใบ้กิน
    ความรู้ความฉลาดที่เคยมีหายไปหมด เหลือแต่ความรู้สึกทึบๆทื่อๆ
    นั่นเพราะอานิสงส์ของวิทยาทานเฉพาะด้านไม่ได้ประกันว่าจะเกิดแสงสว่างกว้างรอบ
    วิทยาทานเพียงกำจัดความทึบบางส่วน และจุดแสงปัญญาขึ้นมาบางด้านเท่านั้น

    ผู้ที่ให้วิทยาเป็นทานด้วยความกระตือรือร้นอยากสร้างคนไปตลอดชีวิต
    จะเกิดใหม่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่บีบให้ชอบใจในเรื่องเดิมๆ
    กับทั้งมีความสามารถพิเศษเหนือคนวัยเดียวกัน
    ดังที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘พรสวรรค์’
    เพราะสำคัญว่าสวรรค์เบื้องบนประทานความสามารถมาฟรีๆกับใครบางคนนั่นเอง

    ๒) ธรรมทาน
    จะให้ผลกว้างขวาง กล่าวคือจะทำให้เกิดความฉลาดทั่วไป
    ไม่จำกัดว่าเป็นไปในทางใดทางหนึ่งโดยเฉพาะ ที่เป็นเช่นนั้น
    เพราะธรรมทานมีอำนาจกำจัดหมอกมัวคลุมจิตของผู้อื่น
    จึงย้อนมากำจัดหมอกมัวคลุมจิตของตนเอง
    และธรรมทานที่จุดแสงปัญญาให้ผู้อื่น ย่อมย้อนมาเพิ่มความสว่างไสวให้ปัญญาตนเองด้วย
    พอจิตฉลาด ปราศจากหมอกมัว ก็คิดอ่านได้แจ่มใสทะลุปรุโปร่งไปทุกเรื่องเป็นธรรมดา

    ผู้ที่ให้ธรรมะเป็นทานด้วยความปรารถนาจะให้ผู้อื่นบรรเทาทุกข์หรือพ้นทุกข์พ้นร้อน
    ไม่หลงเข้ารกเข้าพง จะมีความฉลาดในการเอาตนเองออกจากทุกข์ทางใจ
    และฉลาดในการพัฒนาตนเองทุกๆด้านไปจนกว่าจะเข้าถึงนิพพาน

    เท่าที่เห็นกับตามาจริงๆ ความเจริญรุ่งเรืองของผู้ให้ธรรมะเป็นทาน
    จะยิ่งใหญ่พิสดารเหลือเชื่อ จาระไนให้ละเอียดแล้วเหมือนโกหกกัน


    ฉะนั้นผมขอยกเอาเฉพาะประเด็นสำคัญ
    ที่ช่วยให้คุณเกิดข้อสังเกตในการทดลองด้วยตนเองดังนี้

    ๑) หากเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจธรรมะอย่างถูกต้องเสียก่อน
    ธรรมทานของคุณจะถูกฝาถูกตัว คือถูกกาล ถูกบุคคล
    อานิสงส์ย่อมเป็นผู้สามารถจับจุดถูกได้ทุกเรื่อง
    เมื่อคุณสามารถจับจุดได้ถูกก็ทำให้ไม่สับสน
    เมื่อไม่สับสนก็มีสมาธิอยู่กับเรื่องตรงหน้า
    เมื่อมีสมาธิอยู่กับเรื่องตรงหน้าก็หูตากว้างขวาง เห็นสถานการณ์ตามจริง
    เห็นทางออกให้กับทุกทางตัน หรือเกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆให้กับวิธีล้าสมัยทั้งหลาย

    ๒) หากให้ธรรมทานโดยใจไม่เล็งโลภอยากได้สิ่งตอบแทน
    มีแต่ความปรารถนาประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นอย่างแท้จริง
    อานิสงส์คือลดความมืดแห่งความตระหนี่และความโลภลง
    แล้วเพิ่มแสงสว่างแห่งความสละออกและความเอื้อเฟื้อ
    เมื่อใดคุณเสียสละและเอื้อเฟื้อ เมื่อนั้นใจคุณจะเปิดกว้าง
    เมื่อใดใจคุณเปิดกว้าง คุณจะไม่หมกมุ่นปิดประตูรับรู้สิ่งใหม่
    อะไรเข้ามาก็รับได้หมด ทำความรู้จักคุ้นเคยได้หมด

    ๓) หากคุณทุ่มแรงกายแรงใจด้วยความแน่วแน่
    ในอันที่จะทำให้ผู้อื่นสนใจธรรมะ เข้าใจธรรมะ
    ตลอดจนยอมรับธรรมะมาเป็นแนวดำเนินชีวิตและแนวแก้ปัญหาชีวิต
    อานิสงส์คือคุณจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการใช้ปัญญาและความคิดอ่าน
    เมื่อคุณรู้สึกว่าตนเองมีบุญหนุนให้คิดสำเร็จทำสำเร็จ
    ก็ย่อมเชื่อมั่นในสติปัญญาว่าจะคลี่คลายเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้เสมอ
    หรือกำจัดอุปสรรคให้เป็นทางโล่งได้เสมอ
    หรือสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมาแทนสิ่งเก่าที่เสื่อมแล้วได้เสมอ

    สำหรับข้อ ๓ นั้น ชัดเจนว่ามีความแตกต่างกับวิทยาทานเป็นพิเศษ เ
    พราะการให้วิทยาทานนั้น บางเรื่องแทนที่จะให้ทางออกกับชีวิตคนอื่น
    กลับกลายเป็นสร้างปมกับชีวิตเขาก็มี
    เช่น ถ้าคุณสอนให้เขามีความสามารถยิงปืนได้แม่น
    ก็คงไม่หวังให้เขาใช้ความรู้นั้นไปเจรจากับสามีหรือภรรยาที่บ้านด้วยสันติวิธีเป็นแน่

    เมื่อกล่าวถึงด้านที่ควรชื่นชม ก็ควรกล่าวถึงด้านที่ควรระมัดระวังไว้ให้สมบูรณ์
    เพราะตามธรรมชาติแล้ว สิ่งใดมีคุณใหญ่ เมื่อพลิกกลับด้านก็ย่อมให้โทษหนักเช่นกัน

    คุณเคยสงสัยไหม ทำไมบางคนทั้งโง่ทั้งฉลาดปนเปราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน?
    ทำไมบางคนเงียบๆดูหน้าตาท่าทางฉลาดแต่พูดประโยคเดียวรู้เลยว่าสมองกลวง?
    ทำไมบางคนคิดอย่างอัจฉริยะแต่กลับลงมือทำเหมือนคนปัญญาอ่อน? ฯลฯ
    การมีอยู่จริงของคนเหล่านี้แหละ คือผลของกรรมอันยอกย้อนหรือขัดแย้งกันเป็นตรงข้าม

    ขอยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นบ่อยๆพอให้เห็นภาพนะครับ

    ๑) ครูบางคนให้วิทยาทานเต็มกำลัง
    นักเรียนได้รับความรู้และเกิดความฉลาดคิดฉลาดทำมากมาย
    แต่ระหว่างสอนอยู่หน้าชั้น ครูคนนั้นก็อาจให้คำแนะนำในทางที่ผิดบ่อยๆ
    เช่น ส่งเสริมนักเรียนไปมั่วอบายมุข สนับสนุนการมีฟรีเซ็กซ์ตั้งแต่วัยเรียน
    ซึ่งนักเรียนก็หลงเชื่อ เพราะอาศัยอำนาจเลื่อมใสในครูผู้เก่งกล้า

    ครูชนิดนี้นับว่าให้วิทยาทานจนประกันความฉลาดคิด ฉลาดเรียนรู้ในชาติถัดมา
    แต่ขณะเดียวกันก็ประกันความโง่ในการใช้ชีวิต
    หรือในการตัดสินใจอันมีผลสำคัญกับความสุขความทุกข์

    ๒) อาจารย์บางท่านถ่ายทอดได้ดี ฟังเข้าใจง่าย
    แต่ไม่ค่อยคำนึงว่าเนื้อหาที่ตนสอนไปนั้นตรงหรือไม่ตรง
    ใช่หรือไม่ใช่กันแน่ บางทีก็เกิดจากความขี้เกียจค้นคว้า
    บางทีก็เกิดจากการหลงลืมแล้วไม่พยายามตรวจสอบให้แน่ใจ
    บางทีก็เกิดจากอคติส่วนตัว สรุปคือเอาง่ายหรือเอาแต่ใจตัวเข้าว่า
    ไม่สนใจว่านักศึกษาจะรับการถ่ายทอดไปผิดๆอย่างไร

    อาจารย์แบบนี้นับว่าสร้างอัธยาศัยทางการสอน ผลย่อมเป็นคนพูดเก่ง
    พูดชัด พูดเข้าใจง่ายด้วยวิธีที่ชาญฉลาด
    ทว่าเมื่อใช้ความฉลาดในการออกแบบหรือคิดสร้างสรรค์ใดๆ
    ก็มักเต็มไปด้วยข้อผิดพลาด อาจหยุมหยิม หรืออาจใหญ่โต
    ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับที่เคยสอนแบบไม่รอบคอบนั้น มีผลให้เกิดความเข้าใจผิดร้ายแรงแค่ไหน

    ๓) ผู้เข้าใจธรรมะมักอยากให้ใครๆเห็นว่าตนมีภูมิรู้ภูมิธรรม
    มีความรอบรู้ และเป็นผู้อยู่บนทางถูก ทางตรง ทางประเสริฐ
    พูดง่ายๆว่าอยากเป็นที่ยอมรับนับถือ ไม่เป็นผู้มีความผิดติดตัว
    คนประเภทนี้จึงอาจอยากแสดงธรรมเอาหน้า สอนคนเพื่อให้ได้หน้า
    และจะยอมเสียหน้าไม่ได้ด้วยประการใดๆ
    เช่น สอนผิดแล้วคนอื่นทักท้วงก็โมโหและพยายามโจมตีกลับ
    หรือพยายามเถียงข้างๆคูๆหน้าดำหน้าแดง
    ยอมยืนกรานว่าพระพุทธเจ้าพูดผิดดีกว่าตนกล่าวผิด
    สรุปคือไม่ได้ให้ธรรมะเป็นทานด้วยความปรารถนาประโยชน์ต่อผู้อื่น จะเอาดีเข้าตัวท่าเดียว

    บุคคลเยี่ยงนี้นับว่าเป็นผู้ให้ธรรมเป็นทานด้วยจิตที่
    เจือความโลภและความโกรธ เมื่อน้ำหนักของเหตุเอียงไปในข้างกิเลสแล้ว
    น้ำหนักของผลก็ย่อมออกไปในทางร้ายมากกว่าทางดีไปด้วย
    เช่นผิวนอกอาจเหมือนฉลาด ด้วยผลแห่งบุญที่ชอบสอนธรรมะ
    แต่เอาเข้าจริงพอใครให้แสดงความรู้ความสามารถ ก็กลับไปไม่รอด
    เข้าตำราท่าดีทีเหลว เผลอๆกลายเป็นตัวตลกอวดขี้เท่อให้คนหัวเราะเยาะกันใหญ่
    อันนี้ก็ด้วยผลแห่งบาปที่ปล่อยให้ความโลภและความโกรธล้ำหน้าธรรมะนั่นเอง

    ๔) นักเทศน์บางท่านมีศิลปะการพูดดีเลิศ คำสอนอาจเหนี่ยวนำให้คนอื่นอยากคิดดี
    อยากพูดดี และอยากทำดี แต่ตัวของนักเทศน์เองกลับไม่ทำในสิ่งที่ตนสอน
    เช่น พร่ำบอกว่าการโกหกพกลมเป็นเรื่องน่ารังเกียจ
    ท่องตำราให้คนฟังเป็นคุ้งเป็นแควว่าผลของการมุสาจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้
    แต่ปกติตนเองสามารถปั้นน้ำเป็นตัวได้โดยปราศจากความละอาย
    ทำไปทำมาพวกนี้จะรู้สึกเหมือนหลอกคนอื่นได้สำเร็จ
    และสำคัญผิดว่าตนยิ่งใหญ่เหนือใครๆ หรือกระทั่งเหนือกรรมวิบาก
    เพราะไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ตนสั่งให้คนอื่นทำ

    นักเทศน์ประเภทนี้นับว่าตีสองหน้า ให้ธรรมทานด้วยวาทะแบบดาราขึ้นเวที
    หาใช่คิดให้ด้วยใจจริง ในภายหลังใจของเขาจึงเข้าถึงธรรมยาก
    เห็นตามจริงยาก หรือแม้จะทำความเข้าใจตนเองก็ยังยาก
    ผลที่เกิดในชาติถัดไปคืออาจเป็นพวกฉลาดล้ำทำงานไม่พลาด
    โดยมีข้อแม้ว่าผลประโยชน์ต้องตกอยู่กับผู้อื่น
    แต่เมื่อคิดทำเพื่อเอาประโยชน์เข้าตัวเองแล้วล่ะก็ จะกลับโง่ลงถนัดใจ
    คิดผิดตัดสินใจพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากนั้นแม้ปราดเปรื่องเรื่องงานปานใด
    ก็อาจทึบตันเมื่อเผชิญกับปัญหาส่วนตัว ที่สำคัญคือหูเบา
    โดนต้มตุ๋นง่าย ใครๆเห็นหน้าแล้วอยากลองว่าจะทันคนหรือหัวอ่อน

    กล่าวสรุปก็คือแค่เป็นครูยืนอยู่หน้าชั้นเรียนไม่พอ ยังมี
    ‘รายละเอียดความเป็นครู’ ของแต่ละคนอีกมากมายที่จะถูกนำมาเป็นตัวชี้
    ว่าใครจะได้รับอานิสงส์จากการให้วิทยาทานและธรรมทานเพียงใดปัจจุบันถือว่าเป็นธรรมทาน และวิทยาทาน





    ลุงหมอ เป็นผู้ให้ทั้งทาน วิทยาทาน และธรรมทาน สาธุ สาธุ สาูธุ ค่ะ
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Fri Jun 24, 2011 1:19 pm

    Very Happy Smile Laughing จิตอันฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุข มาให้ จะให้คนเท่ากัน คิดได้ เสมอกัน ย่อมไม่ได้? ลูก อันเกิดจาก พ่อ - แม่ เดียวกัน ยังมีความคิด ปัญญา และอุปนิสัย ต่างกัน? ดี-ชั่ว ไม่เสมอกันได้เลย? ต้อง... อาศัยบุญที่ทำดีไว้แต่ปางก่อน ส่งผลมาให้เท่านั้น บุญ ซื้อ หาเอาข้างทางก็ไม่ได้นะครับ ต้อง ทำเอาเอง? เกิดแต่ จิตใจ ของเราเอง ทั้งเริ่มต้น ท่ำกลาง และลงท้าย? ด้วยความเคารพ ในบุญนั้นๆปราถนาดี ตั้งใจ จนในที่สุด สำเร็จในบุญ Smile จะสังเกตุ ? Rolling Eyes บุคลเกิดมา ต่างกัน ขึ้นต้น ลงท้าย ดี-เลว หรือ เลว - แล้วไปดียิ่งๆขึ้น? ไม่มีความแน่นอน แม้แต่ พระพุทธเจ้า ยังมิให้ประมาท ในบุญทาน แม้เพียงน้อยนิด พระองค์ยัง สรรเสิรญ และทรงรองรับบุญนั้นๆ Smile ในพุทธกาล ทุคตะบุรุษ ยากจน จะทำบุญออกพรรษาโดยมีศัทธาเปี่ยมล้นในพระองค์ซึ่ง พึ่งจะออกจากนิโรจน์สมาบัติ Laughing ทั้งกษัตรย์ เศรษฐี คหบดี มารอนิมนต์ พระองค์ยังไม่ทรงรับ กลับรับนิมนต์ของยาจกยากจนแทน ด้วยเหตุศัทธาเปี่ยมล้น ของเขา ภายหลัง บุคลทุคตะ นั้นกลับ ร่ำรวย เป็นคหบดีผู่มีทรัพย์ เป็นที่พึ่งของ ยาจกยากจนทั้งหลาย บุญ? ผู้ให้ ย่อมเป็นผู้รับ จ้า? ความกว้าง แคบ ของจิตใจ ย่อมมีผลกลับคืนสู่เจ้าของในที่สุดครับผม santa White wizard kind.


    แก้ไขล่าสุดโดย ลุงหมอ เมื่อ Tue Oct 04, 2011 2:50 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง
    อู๊ดดี้
    อู๊ดดี้
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 775
    Join date : 08/05/2011
    ที่อยู่ : เมืองขอนแก่น ดินแดนดอกคูณ

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  อู๊ดดี้ Fri Jun 24, 2011 1:42 pm

    กราบสาธุ เจ้าค่ะ flower
    มด
    มด
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 91
    Join date : 29/09/2011

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  มด Mon Oct 03, 2011 2:01 pm


    วิธีที่แน่ะนำ และ ถูกต้องที่สุด เมื่อได้รับ น้ำหัวเชื้อ ไปจากกระผมคือ? ต้มน้ำ ที่ได้จาก ในบ่อ หนอง คลอง บึง บาดาล หรือจากสระ ไม่เอาน้ำปะปา ที่ผสมคลอรีน ละกัน นะครับ ?
    1. ต้มน้ำให้สุก
    2. รอให้เย็นตัวลงก่อน
    3. ละลายน้ำตาลลงไป 1/5
    4. เทหัวเชื้อที่ได้ ลงไป
    5. แล้ว ปิดให้มิดชิด คลุม แผ่นพลาสติก
    6. เก็บในที่ร่ม
    ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป จะใช้เป็นหัวเชื้อขยายไม่รู้จบ?

    และ ตามสูตร วิธีนี้ หัวเชื้อที่ได้มา จากการขยาย เวลาไปใช้ ปริมาณ 1 แก้ว ( 250 CC ) ต่อ ถังหมัก 200 ลิตร หมายความว่า? ...ถ้า ปริมาณ น้ำ 100 ลิตร น้ำผึ้งหรือ น่ำตาล เป็นสารอาหาร ละลายตัว 20 ก.ก. จะใช้ น้ำหัวเชื้อ ผสมเพียง 1 แก้วเป็นอย่างน้อย ( ผมใช้ 1 ขัน 555+ ) ตีหัวเชื้อ ในน้ำ ทิ้งไว้ 5 วัน (เขาจะเริ่ม จับตัวเป็นวุ้นบางๆ) แล้ว จึงเริ่มทะยอยใส วัสดุ ผลไม้ สมุนไพร เพื่อเริ่มการ หมักเอ็มไซน์ ? วัสดุ ทุกๆชนิดที่ ทำการหมัก ถ้า บดให้ชิ้นเล็กลง มากที่สุด จะได้ผลดี ที่สุดจ้า ไม่ว่า สมุนไพร * ผลไม้ หรือ พืช * ผัก *** ควรใส่ ข้าวปลาย หรือ ข้าวกล้อง 1 ฝ่ามือ + สับปะรส ทั้งเนื้อและเปลือก บดแล้ว ทุกๆถังจ้า ? ทุกๆถัง ที่เริ่มหมักด้วย วิธีนี้ จะเริ่มนับ อายุได้ 15 ปี ทีถังนั้นๆเริ่ม ครบ 1 ปี กะอีก 4 เดือน นะครับ ปีหน้า กรอง นำไปใช่ แบ้งปัน ได้เลยจ้า บอกละเอียด หมดละนะ? ไม่เข้าใจจุดได ถามได้จ้า เจ้าอาราเร่ทำตามนะ? White Wizard.


    ลุงหมอค่ะ 1.การขยายหัวเชื้อ สมมุตินะค่ะถ้าเราใช้ น้ำตาล1กิโล น้ำเปล่า5ลิตร แล้วจะใช้หัวเชื้อที่ได้มาปริมาณเท่าไหร่ค่ะ
    2.พอได้หัวเชื้ออายุครบ1เดือนที่เราขยายเพิ่มเองแล้ว ก้อเอาอันที่เราขยายนี้ ไปขยายตามสูตรเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
    คุณภาพหัวเชื้อยังเท่าเดิมต่อไปได้เรื่อยๆเลยใช่มั๊ยค่ะ

    ขอบคุณค๊า
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Tue Oct 04, 2011 3:02 am

    มด พิมพ์ว่า:
    วิธีที่แน่ะนำ และ ถูกต้องที่สุด เมื่อได้รับ น้ำหัวเชื้อ ไปจากกระผมคือ? ต้มน้ำ ที่ได้จาก ในบ่อ หนอง คลอง บึง บาดาล หรือจากสระ ไม่เอาน้ำปะปา ที่ผสมคลอรีน ละกัน นะครับ ?
    1. ต้มน้ำให้สุก
    2. รอให้เย็นตัวลงก่อน
    3. ละลายน้ำตาลลงไป 1/5
    4. เทหัวเชื้อที่ได้ ลงไป
    5. แล้ว ปิดให้มิดชิด คลุม แผ่นพลาสติก
    6. เก็บในที่ร่ม
    ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป จะใช้เป็นหัวเชื้อขยายไม่รู้จบ?

    และ ตามสูตร วิธีนี้ หัวเชื้อที่ได้มา จากการขยาย เวลาไปใช้ ปริมาณ 1 แก้ว ( 250 CC ) ต่อ ถังหมัก 200 ลิตร หมายความว่า? ...ถ้า ปริมาณ น้ำ 100 ลิตร น้ำผึ้งหรือ น่ำตาล เป็นสารอาหาร ละลายตัว 20 ก.ก. จะใช้ น้ำหัวเชื้อ ผสมเพียง 1 แก้วเป็นอย่างน้อย ( ผมใช้ 1 ขัน 555+ ) ตีหัวเชื้อ ในน้ำ ทิ้งไว้ 5 วัน (เขาจะเริ่ม จับตัวเป็นวุ้นบางๆ) แล้ว จึงเริ่มทะยอยใส วัสดุ ผลไม้ สมุนไพร เพื่อเริ่มการ หมักเอ็มไซน์ ? วัสดุ ทุกๆชนิดที่ ทำการหมัก ถ้า บดให้ชิ้นเล็กลง มากที่สุด จะได้ผลดี ที่สุดจ้า ไม่ว่า สมุนไพร * ผลไม้ หรือ พืช * ผัก *** ควรใส่ ข้าวปลาย หรือ ข้าวกล้อง 1 ฝ่ามือ + สับปะรส ทั้งเนื้อและเปลือก บดแล้ว ทุกๆถังจ้า ? ทุกๆถัง ที่เริ่มหมักด้วย วิธีนี้ จะเริ่มนับ อายุได้ 15 ปี ทีถังนั้นๆเริ่ม ครบ 1 ปี กะอีก 4 เดือน นะครับ ปีหน้า กรอง นำไปใช่ แบ้งปัน ได้เลยจ้า บอกละเอียด หมดละนะ? ไม่เข้าใจจุดได ถามได้จ้า เจ้าอาราเร่ทำตามนะ? White Wizard.


    ลุงหมอค่ะ 1.การขยายหัวเชื้อ สมมุตินะค่ะถ้าเราใช้ น้ำตาล1กิโล น้ำเปล่า5ลิตร แล้วจะใช้หัวเชื้อที่ได้มาปริมาณเท่าไหร่ค่ะ
    2.พอได้หัวเชื้ออายุครบ1เดือนที่เราขยายเพิ่มเองแล้ว ก้อเอาอันที่เราขยายนี้ ไปขยายตามสูตรเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
    คุณภาพหัวเชื้อยังเท่าเดิมต่อไปได้เรื่อยๆเลยใช่มั๊ยค่ะ

    ขอบคุณค๊า

    Very Happy Laughing Smile ช้อ 1. หัวเชื้อ ควรมีมาก เท่าๆกับ น้ำตาลจ้า ( 1 ลิตร ) ถ้ามีน้อยกว่าก็หมักยาว 3 เดือนละกัน เขาจึงจะแข็งแรงดี หัวเชื้อน้อย ก็ ใช้เวลามากขึ้นไง?
    Rolling Eyes 2. หัวเชื้อ เขามีชีวิต นะครับ? สมมุติเป็นคน กินอาหาร แพร่พันธุ์ แล้ว จะให้อายุ น้อยลงไปเป็นเด็ก ก็ไม่ได้ แน่นอน แต่ หัวเชื้อ ยิ่งนาน ยิ่งดี มีคุณภาพ + ประสพการณ์ไง? ไม่มี ต่ำลง ถ้ากลัวก็ ไม่ต้องใช้ก็ได้จ้า santa
    มด
    มด
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 91
    Join date : 29/09/2011

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  มด Wed Oct 05, 2011 12:56 am

    ไม่กลัวคร๊าลุงหมอ แต่นู๋พึ่งเริ่มหมักความรู็น้อย ไม่ค่อยเข้าใจ Crying or Very sad ขอกราบศึกษาเรียนรู้ข้อมูลจากลุงหมอค่ะ นู๋ขออนุญาติ ถ้ามีข้อสงสัยไม่เข้าใจอีก ขอรบกวนถามลุงหมออีกได้มั๊ยค่ะ ขอบคุณมาล่วงหน้าเลยค่ะคร๊า Laughing flower
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Wed Oct 05, 2011 5:44 pm

    มด พิมพ์ว่า:ไม่กลัวคร๊าลุงหมอ แต่นู๋พึ่งเริ่มหมักความรู็น้อย ไม่ค่อยเข้าใจ Crying or Very sad ขอกราบศึกษาเรียนรู้ข้อมูลจากลุงหมอค่ะ นู๋ขออนุญาติ ถ้ามีข้อสงสัยไม่เข้าใจอีก ขอรบกวนถามลุงหมออีกได้มั๊ยค่ะ ขอบคุณมาล่วงหน้าเลยค่ะคร๊า Laughing flower

    Very Happy Laughing Smile ได้จิ การที่แน่ะนำไปนั้น จะ ทดลองก่อนละจ้า เว้น กานใช้น้ำหยด มาตรฐานคน ไม่เท่ากัน บ้าง ใช่ 1 หยด พอดีละ บ้าง 3 หยด จึงจะได้ผล ต้อง เป็นหมอกันเองงิ

    Rolling Eyes Wink อีกอย่าง อาการ 10 วันแรกๆ แต่ละคนก็ ไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน แล้วแต่โรค และ ร่างกายตัวผู้ใช้น้ำหยด แต่ ถ้าพ้น 10 วันไปแล้ว อุ่นใจว่า ได้ผล แน่นอนจ้า santa ลุงหมอ
    อู๊ดดี้
    อู๊ดดี้
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 775
    Join date : 08/05/2011
    ที่อยู่ : เมืองขอนแก่น ดินแดนดอกคูณ

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  อู๊ดดี้ Thu Oct 06, 2011 11:21 am

    thanita พิมพ์ว่า:"ขอบพระคุณ สำหรับความรู้ดี ดี ที่ ลุงหมอ มีแบ่งปันให้ตลอดค่ะ"


    "เราทำได้....ตอน อานิสงส์ของทาน...... โดย พรหมลิขิต"



    ทุกวันนี้เราทำบุญตักบาตร ทำบุญถวายทอดผ้าป่า ถวายกฐิน สร้างโบสถ์
    วิหาร ศาลาการเปรียญ สุขา อย่างสวยงามประกวดแข่งขันกันบางคนถือว่าบุญใหญ่
    เพื่ออะไร ต้องการอะไร ต้องลดความตระหนี่ในตัวตนหรือเปล่า ต้องการบุญอะไร
    ......สิ่งที่เราสร้างก็เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ประโยชน์สำหรับโลก สำหรับวัดวา
    ศาสนาก็เท่านั้นแหละ ถ้าพูดบุญเราจะมาเอาบุญอะไรกันอย่างนี้...
    เมื่อถึงปรมัตถ์แล้วไม่ต้องการ....

    เพราะสมบัติพัสถานทั้งหลายมันมีประจำอยู่ในโลกนี้ มาอย่างสมบูรณ์
    แต่ผู้ที่ขาดปัญญาและไร้ความสามารถ ก็ไม่อาจจะแสวงหาเพื่อครองสมบัติเหล่านั้นได้
    ย่อมครองตนอยู่ด้วยความฝืดเคืองและลำบากขันธ์
    ส่วนผู้มีปัญญาและมีความสามารถ ย่อมแสวงหายึดสมบัติของโลกไว้ได้อย่างมากมาย
    อำนวยความสะดวกสบายแก่ตนได้ทุกกรณี.....

    ส่วนพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ท่านพยายามดำเนินตนเพื่อออกจากสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด.........
    ไปสู่ภาวะแห่งความไม่มีอะไรเลย เพราะว่า......
    “ในทางโลก มี สิ่งที่ มี ส่วนในทางธรรม มี สิ่งที่ ไม่มี”

    จะกล่าวถึงอาชีพครูเปรียบเสมือนเรือจ้าง ให้ความรู้แก่ลูกศิษย์ สร้างคน
    สร้างชาติ แต่ใการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อื่น เพื่อให้เขามีความสามารถ
    ประกอบกิจกรรมแบบโลกๆ เช่น สอนคณิตศาสตร์ สอนกฎหมาย
    สอนเล่นเปียโน ล้วนแล้วแต่เป็น ‘วิทยาทาน’ (วิทยาแปลว่าความรู้)

    แต่ถ้าให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อื่น เพื่อให้เขาคิดได้
    เพื่อให้เขารู้จักบาปบุญคุณโทษ สำนึกผิด ละอายต่อบาป
    และเกิดแรงบันดาลใจในการทำดี ถางทางให้ตัวเองพ้นทุกข์ระยะสั้น
    พ้นทุกข์ระยะยาว และพ้นทุกข์อย่างเด็ดขาดถาวร เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็น ‘ธรรมทาน’
    (ธรรมในที่นี้หมายเอาสัจจะความจริง ความดีงาม ความถูกต้อง และความประพฤติชอบ)

    เมื่อทราบนิยามของทานทั้งสองชนิดแล้ว ผมก็จะกล่าวแยกให้เห็นถึงความต่างในเชิงอานิสงส์ดังนี้

    ๑) วิทยาทาน
    ให้ผลคับแคบ กล่าวคือจะทำให้เกิดความฉลาดเฉพาะเรื่อง
    หรือมีความชอบใจเฉพาะด้าน เช่น ในชาตินี้ยิ่งสอนเรื่องเครื่องจักรกลมากขึ้นเท่าไร
    ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องจักรกลก็ยิ่งแม่นขึ้นเท่านั้น
    ใครถามอะไรตอบได้หมด จะศึกษาวิทยาการจักรกลชั้นสูงก็รู้สึกเหมือนขนม
    แต่พอให้เรียนภาษาต่างประเทศกลับอึ้ง ให้พูดกับฝรั่งอาจใบ้กิน
    ความรู้ความฉลาดที่เคยมีหายไปหมด เหลือแต่ความรู้สึกทึบๆทื่อๆ
    นั่นเพราะอานิสงส์ของวิทยาทานเฉพาะด้านไม่ได้ประกันว่าจะเกิดแสงสว่างกว้างรอบ
    วิทยาทานเพียงกำจัดความทึบบางส่วน และจุดแสงปัญญาขึ้นมาบางด้านเท่านั้น

    ผู้ที่ให้วิทยาเป็นทานด้วยความกระตือรือร้นอยากสร้างคนไปตลอดชีวิต
    จะเกิดใหม่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่บีบให้ชอบใจในเรื่องเดิมๆ
    กับทั้งมีความสามารถพิเศษเหนือคนวัยเดียวกัน
    ดังที่เรียกกันทั่วไปว่า ‘พรสวรรค์’
    เพราะสำคัญว่าสวรรค์เบื้องบนประทานความสามารถมาฟรีๆกับใครบางคนนั่นเอง

    ๒) ธรรมทาน
    จะให้ผลกว้างขวาง กล่าวคือจะทำให้เกิดความฉลาดทั่วไป
    ไม่จำกัดว่าเป็นไปในทางใดทางหนึ่งโดยเฉพาะ ที่เป็นเช่นนั้น
    เพราะธรรมทานมีอำนาจกำจัดหมอกมัวคลุมจิตของผู้อื่น
    จึงย้อนมากำจัดหมอกมัวคลุมจิตของตนเอง
    และธรรมทานที่จุดแสงปัญญาให้ผู้อื่น ย่อมย้อนมาเพิ่มความสว่างไสวให้ปัญญาตนเองด้วย
    พอจิตฉลาด ปราศจากหมอกมัว ก็คิดอ่านได้แจ่มใสทะลุปรุโปร่งไปทุกเรื่องเป็นธรรมดา

    ผู้ที่ให้ธรรมะเป็นทานด้วยความปรารถนาจะให้ผู้อื่นบรรเทาทุกข์หรือพ้นทุกข์พ้นร้อน
    ไม่หลงเข้ารกเข้าพง จะมีความฉลาดในการเอาตนเองออกจากทุกข์ทางใจ
    และฉลาดในการพัฒนาตนเองทุกๆด้านไปจนกว่าจะเข้าถึงนิพพาน

    เท่าที่เห็นกับตามาจริงๆ ความเจริญรุ่งเรืองของผู้ให้ธรรมะเป็นทาน
    จะยิ่งใหญ่พิสดารเหลือเชื่อ จาระไนให้ละเอียดแล้วเหมือนโกหกกัน


    ฉะนั้นผมขอยกเอาเฉพาะประเด็นสำคัญ
    ที่ช่วยให้คุณเกิดข้อสังเกตในการทดลองด้วยตนเองดังนี้

    ๑) หากเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจธรรมะอย่างถูกต้องเสียก่อน
    ธรรมทานของคุณจะถูกฝาถูกตัว คือถูกกาล ถูกบุคคล
    อานิสงส์ย่อมเป็นผู้สามารถจับจุดถูกได้ทุกเรื่อง
    เมื่อคุณสามารถจับจุดได้ถูกก็ทำให้ไม่สับสน
    เมื่อไม่สับสนก็มีสมาธิอยู่กับเรื่องตรงหน้า
    เมื่อมีสมาธิอยู่กับเรื่องตรงหน้าก็หูตากว้างขวาง เห็นสถานการณ์ตามจริง
    เห็นทางออกให้กับทุกทางตัน หรือเกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆให้กับวิธีล้าสมัยทั้งหลาย

    ๒) หากให้ธรรมทานโดยใจไม่เล็งโลภอยากได้สิ่งตอบแทน
    มีแต่ความปรารถนาประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นอย่างแท้จริง
    อานิสงส์คือลดความมืดแห่งความตระหนี่และความโลภลง
    แล้วเพิ่มแสงสว่างแห่งความสละออกและความเอื้อเฟื้อ
    เมื่อใดคุณเสียสละและเอื้อเฟื้อ เมื่อนั้นใจคุณจะเปิดกว้าง
    เมื่อใดใจคุณเปิดกว้าง คุณจะไม่หมกมุ่นปิดประตูรับรู้สิ่งใหม่
    อะไรเข้ามาก็รับได้หมด ทำความรู้จักคุ้นเคยได้หมด

    ๓) หากคุณทุ่มแรงกายแรงใจด้วยความแน่วแน่
    ในอันที่จะทำให้ผู้อื่นสนใจธรรมะ เข้าใจธรรมะ
    ตลอดจนยอมรับธรรมะมาเป็นแนวดำเนินชีวิตและแนวแก้ปัญหาชีวิต
    อานิสงส์คือคุณจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการใช้ปัญญาและความคิดอ่าน
    เมื่อคุณรู้สึกว่าตนเองมีบุญหนุนให้คิดสำเร็จทำสำเร็จ
    ก็ย่อมเชื่อมั่นในสติปัญญาว่าจะคลี่คลายเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้เสมอ
    หรือกำจัดอุปสรรคให้เป็นทางโล่งได้เสมอ
    หรือสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมาแทนสิ่งเก่าที่เสื่อมแล้วได้เสมอ

    สำหรับข้อ ๓ นั้น ชัดเจนว่ามีความแตกต่างกับวิทยาทานเป็นพิเศษ เ
    พราะการให้วิทยาทานนั้น บางเรื่องแทนที่จะให้ทางออกกับชีวิตคนอื่น
    กลับกลายเป็นสร้างปมกับชีวิตเขาก็มี
    เช่น ถ้าคุณสอนให้เขามีความสามารถยิงปืนได้แม่น
    ก็คงไม่หวังให้เขาใช้ความรู้นั้นไปเจรจากับสามีหรือภรรยาที่บ้านด้วยสันติวิธีเป็นแน่

    เมื่อกล่าวถึงด้านที่ควรชื่นชม ก็ควรกล่าวถึงด้านที่ควรระมัดระวังไว้ให้สมบูรณ์
    เพราะตามธรรมชาติแล้ว สิ่งใดมีคุณใหญ่ เมื่อพลิกกลับด้านก็ย่อมให้โทษหนักเช่นกัน

    คุณเคยสงสัยไหม ทำไมบางคนทั้งโง่ทั้งฉลาดปนเปราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน?
    ทำไมบางคนเงียบๆดูหน้าตาท่าทางฉลาดแต่พูดประโยคเดียวรู้เลยว่าสมองกลวง?
    ทำไมบางคนคิดอย่างอัจฉริยะแต่กลับลงมือทำเหมือนคนปัญญาอ่อน? ฯลฯ
    การมีอยู่จริงของคนเหล่านี้แหละ คือผลของกรรมอันยอกย้อนหรือขัดแย้งกันเป็นตรงข้าม

    ขอยกตัวอย่างที่เกิดขึ้นบ่อยๆพอให้เห็นภาพนะครับ

    ๑) ครูบางคนให้วิทยาทานเต็มกำลัง
    นักเรียนได้รับความรู้และเกิดความฉลาดคิดฉลาดทำมากมาย
    แต่ระหว่างสอนอยู่หน้าชั้น ครูคนนั้นก็อาจให้คำแนะนำในทางที่ผิดบ่อยๆ
    เช่น ส่งเสริมนักเรียนไปมั่วอบายมุข สนับสนุนการมีฟรีเซ็กซ์ตั้งแต่วัยเรียน
    ซึ่งนักเรียนก็หลงเชื่อ เพราะอาศัยอำนาจเลื่อมใสในครูผู้เก่งกล้า

    ครูชนิดนี้นับว่าให้วิทยาทานจนประกันความฉลาดคิด ฉลาดเรียนรู้ในชาติถัดมา
    แต่ขณะเดียวกันก็ประกันความโง่ในการใช้ชีวิต
    หรือในการตัดสินใจอันมีผลสำคัญกับความสุขความทุกข์

    ๒) อาจารย์บางท่านถ่ายทอดได้ดี ฟังเข้าใจง่าย
    แต่ไม่ค่อยคำนึงว่าเนื้อหาที่ตนสอนไปนั้นตรงหรือไม่ตรง
    ใช่หรือไม่ใช่กันแน่ บางทีก็เกิดจากความขี้เกียจค้นคว้า
    บางทีก็เกิดจากการหลงลืมแล้วไม่พยายามตรวจสอบให้แน่ใจ
    บางทีก็เกิดจากอคติส่วนตัว สรุปคือเอาง่ายหรือเอาแต่ใจตัวเข้าว่า
    ไม่สนใจว่านักศึกษาจะรับการถ่ายทอดไปผิดๆอย่างไร

    อาจารย์แบบนี้นับว่าสร้างอัธยาศัยทางการสอน ผลย่อมเป็นคนพูดเก่ง
    พูดชัด พูดเข้าใจง่ายด้วยวิธีที่ชาญฉลาด
    ทว่าเมื่อใช้ความฉลาดในการออกแบบหรือคิดสร้างสรรค์ใดๆ
    ก็มักเต็มไปด้วยข้อผิดพลาด อาจหยุมหยิม หรืออาจใหญ่โต
    ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับที่เคยสอนแบบไม่รอบคอบนั้น มีผลให้เกิดความเข้าใจผิดร้ายแรงแค่ไหน

    ๓) ผู้เข้าใจธรรมะมักอยากให้ใครๆเห็นว่าตนมีภูมิรู้ภูมิธรรม
    มีความรอบรู้ และเป็นผู้อยู่บนทางถูก ทางตรง ทางประเสริฐ
    พูดง่ายๆว่าอยากเป็นที่ยอมรับนับถือ ไม่เป็นผู้มีความผิดติดตัว
    คนประเภทนี้จึงอาจอยากแสดงธรรมเอาหน้า สอนคนเพื่อให้ได้หน้า
    และจะยอมเสียหน้าไม่ได้ด้วยประการใดๆ
    เช่น สอนผิดแล้วคนอื่นทักท้วงก็โมโหและพยายามโจมตีกลับ
    หรือพยายามเถียงข้างๆคูๆหน้าดำหน้าแดง
    ยอมยืนกรานว่าพระพุทธเจ้าพูดผิดดีกว่าตนกล่าวผิด
    สรุปคือไม่ได้ให้ธรรมะเป็นทานด้วยความปรารถนาประโยชน์ต่อผู้อื่น จะเอาดีเข้าตัวท่าเดียว

    บุคคลเยี่ยงนี้นับว่าเป็นผู้ให้ธรรมเป็นทานด้วยจิตที่
    เจือความโลภและความโกรธ เมื่อน้ำหนักของเหตุเอียงไปในข้างกิเลสแล้ว
    น้ำหนักของผลก็ย่อมออกไปในทางร้ายมากกว่าทางดีไปด้วย
    เช่นผิวนอกอาจเหมือนฉลาด ด้วยผลแห่งบุญที่ชอบสอนธรรมะ
    แต่เอาเข้าจริงพอใครให้แสดงความรู้ความสามารถ ก็กลับไปไม่รอด
    เข้าตำราท่าดีทีเหลว เผลอๆกลายเป็นตัวตลกอวดขี้เท่อให้คนหัวเราะเยาะกันใหญ่
    อันนี้ก็ด้วยผลแห่งบาปที่ปล่อยให้ความโลภและความโกรธล้ำหน้าธรรมะนั่นเอง

    ๔) นักเทศน์บางท่านมีศิลปะการพูดดีเลิศ คำสอนอาจเหนี่ยวนำให้คนอื่นอยากคิดดี
    อยากพูดดี และอยากทำดี แต่ตัวของนักเทศน์เองกลับไม่ทำในสิ่งที่ตนสอน
    เช่น พร่ำบอกว่าการโกหกพกลมเป็นเรื่องน่ารังเกียจ
    ท่องตำราให้คนฟังเป็นคุ้งเป็นแควว่าผลของการมุสาจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้
    แต่ปกติตนเองสามารถปั้นน้ำเป็นตัวได้โดยปราศจากความละอาย
    ทำไปทำมาพวกนี้จะรู้สึกเหมือนหลอกคนอื่นได้สำเร็จ
    และสำคัญผิดว่าตนยิ่งใหญ่เหนือใครๆ หรือกระทั่งเหนือกรรมวิบาก
    เพราะไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่ตนสั่งให้คนอื่นทำ

    นักเทศน์ประเภทนี้นับว่าตีสองหน้า ให้ธรรมทานด้วยวาทะแบบดาราขึ้นเวที
    หาใช่คิดให้ด้วยใจจริง ในภายหลังใจของเขาจึงเข้าถึงธรรมยาก
    เห็นตามจริงยาก หรือแม้จะทำความเข้าใจตนเองก็ยังยาก
    ผลที่เกิดในชาติถัดไปคืออาจเป็นพวกฉลาดล้ำทำงานไม่พลาด
    โดยมีข้อแม้ว่าผลประโยชน์ต้องตกอยู่กับผู้อื่น
    แต่เมื่อคิดทำเพื่อเอาประโยชน์เข้าตัวเองแล้วล่ะก็ จะกลับโง่ลงถนัดใจ
    คิดผิดตัดสินใจพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากนั้นแม้ปราดเปรื่องเรื่องงานปานใด
    ก็อาจทึบตันเมื่อเผชิญกับปัญหาส่วนตัว ที่สำคัญคือหูเบา
    โดนต้มตุ๋นง่าย ใครๆเห็นหน้าแล้วอยากลองว่าจะทันคนหรือหัวอ่อน

    กล่าวสรุปก็คือแค่เป็นครูยืนอยู่หน้าชั้นเรียนไม่พอ ยังมี
    ‘รายละเอียดความเป็นครู’ ของแต่ละคนอีกมากมายที่จะถูกนำมาเป็นตัวชี้
    ว่าใครจะได้รับอานิสงส์จากการให้วิทยาทานและธรรมทานเพียงใดปัจจุบันถือว่าเป็นธรรมทาน และวิทยาทาน





    ลุงหมอ เป็นผู้ให้ทั้งทาน วิทยาทาน และธรรมทาน สาธุ สาธุ สาูธุ ค่ะ
    bounce ป้าอู๊ดดี้อ่านแล้วชอบม๊ากมาก อ่านแล้วก็จำบ่ได้ แต่ชอบจ๊ะ flower flower lol! lol!
    avatar
    seksan
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 11
    Join date : 16/10/2011

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty เรียนลุงหมอ

    ตั้งหัวข้อ  seksan Thu Dec 01, 2011 8:41 am

    ผมได้รับหัวเชื้อ ประมาณ 500 ซีซี ครับ จะใช้น้ำเท่าไหร่ดีครับ ขออภัยครับผมได้อ่านแล้ว
    แต่ไม่ค่อยเข้าใจครับ แล้วพอผสมเรียบร้อยแล้วเราต้องใช้ผัก ผลไม้ใส่ลงไปอีกใช่ไหม่ครับ

    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Thu Dec 01, 2011 1:22 pm

    seksan พิมพ์ว่า:ผมได้รับหัวเชื้อ ประมาณ 500 ซีซี ครับ จะใช้น้ำเท่าไหร่ดีครับ ขออภัยครับผมได้อ่านแล้ว
    แต่ไม่ค่อยเข้าใจครับ แล้วพอผสมเรียบร้อยแล้วเราต้องใช้ผัก ผลไม้ใส่ลงไปอีกใช่ไหม่ครับ


    Very Happy Laughing Rolling Eyes วิธีที่แน่ะนำ และ ถูกต้องที่สุด เมื่อได้รับ น้ำหัวเชื้อ ไปจากกระผมคือ? ต้มน้ำ ที่ได้จาก ในบ่อ หนอง คลอง บึง บาดาล หรือจากสระ ไม่เอาน้ำปะปา ที่ผสมคลอรีน ละกัน นะครับ ?
    1. ต้มน้ำให้สุก
    2. รอให้เย็นตัวลงก่อน ใช้น้ำ ต้มสุก แล่้วทิ้งให้เย็น 5ส่วน
    3. ละลายน้ำผึ้ง หรือ น้ำตาล ลงไป 1 ส่วน
    4. เทหัวเชื้อที่ได้ ลงไป 3 ส่วน
    5. แล้ว ปิดให้มิดชิด คลุม แผ่นพลาสติก
    6. เก็บในที่ร่ม
    cheers ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป จะใช้เป็นหัวเชื้อขยายไม่รู้จบ? โดยใช้
    bom สูตรกลาง น้ำผึ้ง หรือ น้ำตาล 1 * หัวเชื้อที่ได้ ลงไป 3 ส่วน * น้ำเติมลงไป 5 ส่วน ? สรุป 1 * 3 * 5 cheers ขยาย ครบ 1 เดือน ตักแบ่งไปใช้ ผสมเป็นหัวเชื้อเมื่อ จะหมักพืช ผัก ผลไม้ โดยใช้หัวชื้อ ขยายของเรา 1 ลิตร ต่อ ถัง หมักใหม่ 200 ลิตร เล็ก - ใหญ่ เพิ่มลด ตามส่วนครับ? Rolling Eyes จะใช้เมือขยายแล้ว 1 เดือนจ้า cheers santa


    แก้ไขล่าสุดโดย ลุงหมอ เมื่อ Thu Dec 01, 2011 9:54 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
    avatar
    char
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 70
    Join date : 08/11/2011

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  char Thu Dec 01, 2011 9:27 pm


    ลุงหมอครับ ผมงง ตรงนี้ครับ น้ำผึ้ง หรือ น้ำตาล 1 * หัวเชื้อที่ได้ ลงไป 3 ส่วน * หัวเชื้อที่ได้ ลงไป 3 ส่วน มันมีคำว่าห้วเชื้อ 2 ครั้งครับผม สรุปว่า ว่า เป็น นำตาล 1 หัวเช้อ 3 น้ำ 5 ถูกไหมครับ
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Thu Dec 01, 2011 9:56 pm

    char พิมพ์ว่า:
    ลุงหมอครับ ผมงง ตรงนี้ครับ น้ำผึ้ง หรือ น้ำตาล 1 * หัวเชื้อที่ได้ ลงไป 3 ส่วน * หัวเชื้อที่ได้ ลงไป 3 ส่วน มันมีคำว่าห้วเชื้อ 2 ครั้งครับผม สรุปว่า ว่า เป็น นำตาล 1 หัวเช้อ 3 น้ำ 5 ถูกไหมครับ

    Very Happy Laughing Embarassed ลุงหมอพิมพ์ ผิดเองจ้า affraid สรุปว่า ว่า เป็น นำตาล 1 หัวเช้อ 3 น้ำ 5 ถูกไหมครับ? ถูกต้องละครับ santa
    มด
    มด
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 91
    Join date : 29/09/2011

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  มด Fri Dec 02, 2011 12:56 am

    ลุงหมอจร้า ใช้สูตร 1/5/5 เลยได้มั๊ยค่ะ กลัวไม่เข้มข้นน่ะค่ะ อันไหนดีกว่ากันค่ะ ระหว่าง1/3/5ก่ะ 1/5/5 ขอบคุณค่ะ
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Fri Dec 02, 2011 4:55 pm

    มด พิมพ์ว่า:ลุงหมอจร้า ใช้สูตร 1/5/5 เลยได้มั๊ยค่ะ กลัวไม่เข้มข้นน่ะค่ะ อันไหนดีกว่ากันค่ะ ระหว่าง1/3/5ก่ะ 1/5/5 ขอบคุณค่ะ

    Laughing Very Happy Rolling Eyes ใช้ 1 * 5 * 5 ได้ก็ดีจ้า เข้ม ข้นดีจ้า cheers sunny santa ลุงหมอ
    หนูแดง
    หนูแดง
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 394
    Join date : 08/06/2011
    ที่อยู่ : เมืองขอนแก่น

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  หนูแดง Fri Dec 02, 2011 7:28 pm

    Very Happy ลุงหมอค่ะ Laughing ...หนูแดงได้รับหัวเชื้อที่ลุงหมอส่งให้เรียบร้อยแล้วค่ะ สภาพ 100%เจ้าค่ะ และได้ขยายเรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ หนูแดงขอบพระคุณลุงหมอ มาก ๆ เจ้าค่ะ...
    sunny ช่วงนี้อากาศหนาวแล้วขอให้ลุงหมอรักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ... santa flower
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Fri Dec 02, 2011 9:21 pm

    หนูแดง พิมพ์ว่า: Very Happy ลุงหมอค่ะ Laughing ...หนูแดงได้รับหัวเชื้อที่ลุงหมอส่งให้เรียบร้อยแล้วค่ะ สภาพ 100%เจ้าค่ะ และได้ขยายเรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ หนูแดงขอบพระคุณลุงหมอ มาก ๆ เจ้าค่ะ...
    sunny ช่วงนี้อากาศหนาวแล้วขอให้ลุงหมอรักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ... santa flower

    Very Happy Laughing Smile จ้า.... ขยาย ไว้ละกัน ต่อไป ได้ใช้งานแน่ๆ ขยายแล้ว อณุญาติให้ขายได้จ้า ตอนลุงหมอหามาใหมๆ ขวดเป็นพันจ้า ( อิอิเอามา 20ลิตร )ตอนนี้ แจกคุ้มแล้วจ้า cheers ลุงหมอ ถือว่า เงิน 1.000 เอามาอม ไม่หายโรค? แต่มหาบำบัติ น้ำหมัก? ป้าเช็ง คิด ปีละ 100 จ้า 16 ปีก็ ขวดละ 1.600 ละถ้าจะขาย? tongue ส่วนพวกเราจะขาย เท่าไรก็ ตามใจนิ ต่อไป ลุงหมอ จะเลิกแจก ละนะ? จะรอให้ พวกเรา หมักกันให้ผ่าน 1 ปี 6 เดือนก่อนนิ จะได้มีมหาบำบัติกันพอใช้จ่ายแจก หรือ จำหน่าย?ให้แก่ผู้ควรให้จ้า? cheers santa ลุงหมอ
    หนูแดง
    หนูแดง
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 394
    Join date : 08/06/2011
    ที่อยู่ : เมืองขอนแก่น

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  หนูแดง Sat Dec 03, 2011 10:22 am

    ลุงหมอ พิมพ์ว่า:
    หนูแดง พิมพ์ว่า: Very Happy ลุงหมอค่ะ Laughing ...หนูแดงได้รับหัวเชื้อที่ลุงหมอส่งให้เรียบร้อยแล้วค่ะ สภาพ 100%เจ้าค่ะ และได้ขยายเรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ หนูแดงขอบพระคุณลุงหมอ มาก ๆ เจ้าค่ะ...
    sunny ช่วงนี้อากาศหนาวแล้วขอให้ลุงหมอรักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ... santa flower

    Very Happy Laughing Smile จ้า.... ขยาย ไว้ละกัน ต่อไป ได้ใช้งานแน่ๆ ขยายแล้ว อณุญาติให้ขายได้จ้า ตอนลุงหมอหามาใหมๆ ขวดเป็นพันจ้า ( อิอิเอามา 20ลิตร )ตอนนี้ แจกคุ้มแล้วจ้า cheers ลุงหมอ ถือว่า เงิน 1.000 เอามาอม ไม่หายโรค? แต่มหาบำบัติ น้ำหมัก? ป้าเช็ง คิด ปีละ 100 จ้า 16 ปีก็ ขวดละ 1.600 ละถ้าจะขาย? tongue ส่วนพวกเราจะขาย เท่าไรก็ ตามใจนิ ต่อไป ลุงหมอ จะเลิกแจก ละนะ? จะรอให้ พวกเรา หมักกันให้ผ่าน 1 ปี 6 เดือนก่อนนิ จะได้มีมหาบำบัติกันพอใช้จ่ายแจก หรือ จำหน่าย?ให้แก่ผู้ควรให้จ้า? cheers santa ลุงหมอ


    :D Very Happy เจ้าค่ะลุงหมอ santa น้ำหมักที่อายุครบ 1 ปีที่หนูแดงนำมาขยาย+กับใส่หัวเชื้อ 15 ปี + ที่ลุงหมอส่งมาให้ด้วย และที่ลุงหมอบอกว่าให้ได้อายุ 1 ปี 4 เดือน ก็จะได้อายุเท่ากับ 16 ปี นั่น ตอนนี้เกิดวุ้นหนามากเจ้าค่ะ หนูแดงสงสัยว่าต้องเปิดดูตลอดเวลาหรือเปล่าค่ะ และต้องกดวุ้นให้จมไม่ค่ะ santa
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Sat Dec 03, 2011 2:06 pm

    หนูแดง พิมพ์ว่า:
    ลุงหมอ พิมพ์ว่า:
    หนูแดง พิมพ์ว่า: Very Happy ลุงหมอค่ะ Laughing ...หนูแดงได้รับหัวเชื้อที่ลุงหมอส่งให้เรียบร้อยแล้วค่ะ สภาพ 100%เจ้าค่ะ และได้ขยายเรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ หนูแดงขอบพระคุณลุงหมอ มาก ๆ เจ้าค่ะ...
    sunny ช่วงนี้อากาศหนาวแล้วขอให้ลุงหมอรักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ... santa flower

    Very Happy Laughing Smile จ้า.... ขยาย ไว้ละกัน ต่อไป ได้ใช้งานแน่ๆ ขยายแล้ว อณุญาติให้ขายได้จ้า ตอนลุงหมอหามาใหมๆ ขวดเป็นพันจ้า ( อิอิเอามา 20ลิตร )ตอนนี้ แจกคุ้มแล้วจ้า cheers ลุงหมอ ถือว่า เงิน 1.000 เอามาอม ไม่หายโรค? แต่มหาบำบัติ น้ำหมัก? ป้าเช็ง คิด ปีละ 100 จ้า 16 ปีก็ ขวดละ 1.600 ละถ้าจะขาย? tongue ส่วนพวกเราจะขาย เท่าไรก็ ตามใจนิ ต่อไป ลุงหมอ จะเลิกแจก ละนะ? จะรอให้ พวกเรา หมักกันให้ผ่าน 1 ปี 6 เดือนก่อนนิ จะได้มีมหาบำบัติกันพอใช้จ่ายแจก หรือ จำหน่าย?ให้แก่ผู้ควรให้จ้า? cheers santa ลุงหมอ


    :D Very Happy เจ้าค่ะลุงหมอ santa น้ำหมักที่อายุครบ 1 ปีที่หนูแดงนำมาขยาย+กับใส่หัวเชื้อ 15 ปี + ที่ลุงหมอส่งมาให้ด้วย และที่ลุงหมอบอกว่าให้ได้อายุ 1 ปี 4 เดือน ก็จะได้อายุเท่ากับ 16 ปี นั่น ตอนนี้เกิดวุ้นหนามากเจ้าค่ะ หนูแดงสงสัยว่าต้องเปิดดูตลอดเวลาหรือเปล่าค่ะ และต้องกดวุ้นให้จมไม่ค่ะ santa

    Shocked Rolling Eyes Very Happy กดให้จม เติมน้ำหวาน ถ้าเป็นน้ำผึ้งเลี้ยง ก็ยังดีจ้า หาฟาร์มให้ไกล้ๆจะดี ค่าส่งจะได้ไม่แพง ต่อไปเขาจะเป็นวุ้น 16 ปีจ้า แม่คู้ณ และพวกเบาหวานจะได้กินได้สบายๆ ทุนน้อย ควรเริ่มจากน้ำตาล แล้วเพิ่มขยายด้วยน้ำผึ้งจ้า ดูแลให้สอาด คลุมผ้า หรือ ผ้ายาง และเชือกพัน มัดทับไว้กันหนอนแมลงลงกินวุ้น? เปิดดูทุกๆ 5- 7 วัน อย่างน้อยๆวักน้ำใส่ อย่าให้แห้ง หรือ กด ให้จมเมื่อมันหนา santa
    หนูแดง
    หนูแดง
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 394
    Join date : 08/06/2011
    ที่อยู่ : เมืองขอนแก่น

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  หนูแดง Sun Dec 04, 2011 12:31 pm

    ลุงหมอ พิมพ์ว่า:
    หนูแดง พิมพ์ว่า:
    ลุงหมอ พิมพ์ว่า:
    หนูแดง พิมพ์ว่า: Very Happy ลุงหมอค่ะ Laughing ...หนูแดงได้รับหัวเชื้อที่ลุงหมอส่งให้เรียบร้อยแล้วค่ะ สภาพ 100%เจ้าค่ะ และได้ขยายเรียบร้อยแล้วเช่นกันค่ะ หนูแดงขอบพระคุณลุงหมอ มาก ๆ เจ้าค่ะ...
    sunny ช่วงนี้อากาศหนาวแล้วขอให้ลุงหมอรักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ... santa flower

    Very Happy Laughing Smile จ้า.... ขยาย ไว้ละกัน ต่อไป ได้ใช้งานแน่ๆ ขยายแล้ว อณุญาติให้ขายได้จ้า ตอนลุงหมอหามาใหมๆ ขวดเป็นพันจ้า ( อิอิเอามา 20ลิตร )ตอนนี้ แจกคุ้มแล้วจ้า cheers ลุงหมอ ถือว่า เงิน 1.000 เอามาอม ไม่หายโรค? แต่มหาบำบัติ น้ำหมัก? ป้าเช็ง คิด ปีละ 100 จ้า 16 ปีก็ ขวดละ 1.600 ละถ้าจะขาย? tongue ส่วนพวกเราจะขาย เท่าไรก็ ตามใจนิ ต่อไป ลุงหมอ จะเลิกแจก ละนะ? จะรอให้ พวกเรา หมักกันให้ผ่าน 1 ปี 6 เดือนก่อนนิ จะได้มีมหาบำบัติกันพอใช้จ่ายแจก หรือ จำหน่าย?ให้แก่ผู้ควรให้จ้า? cheers santa ลุงหมอ


    :D Very Happy เจ้าค่ะลุงหมอ santa น้ำหมักที่อายุครบ 1 ปีที่หนูแดงนำมาขยาย+กับใส่หัวเชื้อ 15 ปี + ที่ลุงหมอส่งมาให้ด้วย และที่ลุงหมอบอกว่าให้ได้อายุ 1 ปี 4 เดือน ก็จะได้อายุเท่ากับ 16 ปี นั่น ตอนนี้เกิดวุ้นหนามากเจ้าค่ะ หนูแดงสงสัยว่าต้องเปิดดูตลอดเวลาหรือเปล่าค่ะ และต้องกดวุ้นให้จมไม่ค่ะ santa

    Shocked Rolling Eyes Very Happy กดให้จม เติมน้ำหวาน ถ้าเป็นน้ำผึ้งเลี้ยง ก็ยังดีจ้า หาฟาร์มให้ไกล้ๆจะดี ค่าส่งจะได้ไม่แพง ต่อไปเขาจะเป็นวุ้น 16 ปีจ้า แม่คู้ณ และพวกเบาหวานจะได้กินได้สบายๆ ทุนน้อย ควรเริ่มจากน้ำตาล แล้วเพิ่มขยายด้วยน้ำผึ้งจ้า ดูแลให้สอาด คลุมผ้า หรือ ผ้ายาง และเชือกพัน มัดทับไว้กันหนอนแมลงลงกินวุ้น? เปิดดูทุกๆ 5- 7 วัน อย่างน้อยๆวักน้ำใส่ อย่าให้แห้ง หรือ กด ให้จมเมื่อมันหนา santa
    .

    ขอบคุณค่ะลุงหมอ...ตอนนี้หนูแดงรักษาเป็นอย่างดี และห่วงมากด้วยเจ้าค่ะ ห้ามใครมาแตะต้อง แตะต้องได้คนเดียวคือหนูแดงเอง คริคริ sunny ใช้พลาสติกคลุม มัดยาง แล้วก็คลุ้มด้วยผ้าอีกชั้น ไม่ให้ฝุ่นหรือแมลงลงไปได้flower หนูแดงทุนน้อยใช้น้ำตาลอ้อยเจ้าค่ะ lol! ถ้าอย่างนั้นหนูแดงต้องไปกดวุ้นให้กินน้ำก่อนนะค่ะ santa
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Sun Dec 04, 2011 1:22 pm

    Very Happy Laughing Smile น้ำอ้อย น้ำตาลทรายแดง ได้ทั้งนั้นจ้า ขอให้ได้ขยาย ละกันนิ cheers santa ลุงหมอ
    avatar
    chuti
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 107
    Join date : 17/10/2011

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  chuti Sun Dec 04, 2011 8:50 pm

    ลุงหมอ พิมพ์ว่า: Very Happy Laughing Smile น้ำอ้อย น้ำตาลทรายแดง ได้ทั้งนั้นจ้า ขอให้ได้ขยาย ละกันนิ cheers santa ลุงหมอ

    สาธุเจ้าค่ะ

    ขอบคุณทุกๆ ความรู้ นะคะ
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Wed Dec 21, 2011 10:08 am

    Very Happy Laughing Smile สรุปละนะครับ สูตรขยายหัวเชื้อ 16 ปี+

    1. cheers ใช้สูตรขยายเข้มข้น? น้ำตาลหรือน้ำผึ้ง 1 ส่วน * หัวเชื้อ 16ปี+ 5 ส่วน * น้ำสอาด ต้มสุกเย็นแล้ว 5 ส่วน *-* cheers Idea ขยายแล้ว สามารถ ใช้ ้ป็นหัวเชื้อได้ ภายใน 24 ช.ม. ละครับ

    2. Rolling Eyes สูตรขยาย ปานกลาง ? น้ำตาลหรือน้ำผึ้ง 1 ส่วน * หัวเชื้อ 16ปี+ 3 ส่วน * น้ำสอาด ต้มสุกเย็นแล้ว 5 ส่วน *-*
    cheers Idea ขยายแล้ว สามารถ ใช้ ้ป็นหัวเชื้อได้ ภายใน 30 วัน. ละครับ

    3. cheers ใช้สูตรขยาย มาตรฐาน? น้ำตาลหรือน้ำผึ้ง 1 ส่วน * หัวเชื้อ 16ปี+ 1 ส่วน * น้ำสอาด ต้มสุกเย็นแล้ว 5 ส่วน *-*
    cheers Idea ขยายแล้ว สามารถ ใช้ ้ป็นหัวเชื้อได้ ภายใน 60 วัน. ละครับ?

    Smile จะ ชอบแบบใหน อยู่ที่ เหตุผล เวลา บังคับ นะครับ affraid santa ลุงหมอ สวนโพธิ์
    avatar
    gaigook
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 11
    Join date : 24/11/2011

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty สงสัยวิธีกินหัวเชื้อ

    ตั้งหัวข้อ  gaigook Tue Jan 10, 2012 10:42 pm

    หัวเชื้อที่เรานำขยายแล้วกินอย่างไรครับลุงหมอ ผสมน้ำ หรือว่าดื่มอย่างไร เหมือนน้ำหยดหรือเปล่าครับ
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ Empty Re: วิธีขยายน้ำหัวเชื้อ พุทธบัญญัติ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Wed Jan 11, 2012 12:44 am

    gaigook พิมพ์ว่า:หัวเชื้อที่เรานำขยายแล้วกินอย่างไรครับลุงหมอ ผสมน้ำ หรือว่าดื่มอย่างไร เหมือนน้ำหยดหรือเปล่าครับ

    Shocked Rolling Eyes Very Happy หัวเชื้อ ขยาย เพื่อไปเป็นตัวเร่ง น้ำหมัก วัสดุใหม่ ให้มีอายุมากๆขึ้น ตามอายุหัวเชื้อ นะครับ ก็จะได้จาก มหาบำบัติ น้ำหยด แบบของป้าเช็ง อายุ 19 ปี หรือ ของผม ที่ อายุ แค่ 16 ปี+ เพื่อดึง เร่งอายุ ให้ สูง ตามหัวเชื้อ นะครับ

    Very Happy sunny เมื่อ หัวเชื้อ ขยายมาจาก น้ำหยด มหาบำบัติ? ย่อมทานได้ แต่จากเดิม ใช้1-2 หยด ก็ จะต้องให้ใช้ 1 ช้อนกาแฟ แทน 1 หยด ต่อน้ำ 1 แก้วจ้า ถ้าเข้มข้น Shocked หรือ ช้อนคาว ถ้าสูตรกลาง และ 1 เป๊ค ถ้าอ่อน 1 *1*5 อยู่ที่เราละครับ santa

      เวลาขณะนี้ Mon Apr 29, 2024 12:24 pm