ถามมา...โรคตับอ่อนอักเสบ ? ถ้า ป่วย หรือเป็นอยู่ ให้ เบื้องต้น ทาน ชมิ้นชันสดๆก่อนอาหาร และ หรือ เมื่อ อืดปวดท้อง ควรทาน 3 - 4 เวลาละครับ คุมอาหาร งดเค็ม มัน หวาน เพื่อให้ตีับพัก ทำงานน้อยลง *-* ทานน้ำหยดมหาบำบัติ 2 หยด ผสมน้ำ 1 แก้ว +ทานสมุนไพรเจียวกู่หลานล้างพิษ +ลดใขมัน น้ำตาลในเลือด อยากให้ หา ฝักคูน+ขมิ้น ต้มน้ำทานครับจะ บำรุงตับ
โรคที่เกิดกับตับอ่อนที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ โรคตับอ่อนอักเสบ ซึ่งนพ.รุจาพงศ์ อธิบายว่า เป็นภาวะที่น้ำย่อยในตับอ่อนไม่สามารถไหลผ่านท่อของตับอ่อนได้ ทำให้เกิดการย่อยเนื้อเยื่อของตัวตับอ่อนเอง ส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้น เมื่อมีการอักเสบหลายครั้งเข้าก็จะกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง และจะเริ่มมีหินปูนไปเกาะที่ตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนมีขนาดเล็กลง สมรรถภาพในการทำงานลดลง
“การอักเสบของตับอ่อนแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ การอักเสบแบบเฉียบพลัน และการอักเสบแบบเรื้อรัง โดยผู้ป่วยจะมีอาการอักเสบแบบเฉียบพลันก่อน หากโรคไม่หายขาดหรือกลับมาเป็นอีกเพราะสาเหตุยังคงอยู่ ก็จะกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง”
ในการอักเสบแบบเฉียบพลันนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องอย่างมากและปวดตลอดเวลา โดยจะปวดร้าวไปทางด้านหลังเหมือนโดนมีดแทงนอกจากนี้ยังอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย แต่ก็เป็นไปได้ที่ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการปวดเลยแต่พบได้น้อยมาก ส่วนการอักเสบแบบเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจปวดท้องไม่มากแต่มักมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น ปวดท้องเรื้อรัง ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ เกิดโรคเบาหวาน ท้องเสียเรื้อรังเพราะไม่สามารถย่อยไขมันได้ ถ่ายอุจจาระมีไขมันลอยอยู่ น้ำหนักลด มีอาการตาเหลืองตัวเหลือง เป็นต้น
ปัจจัยการเกิดโรค
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักและนิ่วในถุงน้ำดีเป็นสาเหตุหลักของโรคที่พบได้มากที่สุด ส่วนสาเหตุอื่นๆ ได้แก่ ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง ผลข้างเคียงของยาบางชนิด โรคภูมิต้านตนเอง มีพยาธิหรือไวรัสบางอย่าง “มีประมาณร้อยละ 5 – 10 ที่เราไม่พบสาเหตุของโรค ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงมีโอกาสกลับมาเป็นโรคได้อีก เพราะเราไม่รู้ว่าต้นเหตุคืออะไร” นพ. รุจาพงศ์กล่าว
การวินิจฉัยและรักษา
ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบที่มีอาการไม่รุนแรงมักมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ท้องอืด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งการตรวจเลือดเพื่อดูเอนไซม์ของตับอ่อนที่ขึ้นสูง
ร่วมกับการทำอัลตราซาวนด์และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ว่ามีอาการตับอ่อนอักเสบหรือไม่
เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการตับอ่อนอักเสบ แพทย์จะทำการรักษาโดยให้ งดน้ำ งดอาหาร เพื่อหยุดการทำงานของตับอ่อน ร่วมกับการให้ยาลดอาการปวด และให้น้ำ 24 - 48 ชั่วโมงเพราะผู้ป่วยจะมีอาการของภาวะขาดน้ำ ในกรณีที่มีการอักเสบมากจนเกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อตับอ่อน จะมีโอกาสติดเชื้อสูง แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะและอาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อเปิดเข้าไปล้างทำความสะอาด
“โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าตรวจพบสาเหตุของโรค เช่น พบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีเราก็ผ่าตัดออกไป ดังนั้นถ้าตรวจพบเร็วและไม่มีโรคแทรกซ้อน โรคนี้ถือเป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ส่วนโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังที่ยังหาสาเหตุไม่ได้นั้น ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่โรคอาจพัฒนาไปเป็นโรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน หรือมะเร็งในตับอ่อนได้”
มะเร็งตับอ่อน
แม้จะพบไม่บ่อยนักในประเทศไทย แต่จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ขณะที่องค์การอนามัยโลกรายงานว่ามะเร็งตับอ่อนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับเจ็ดของการเสียชีวิตจากมะเร็งทั่วโลกและเป็นอันดับสี่ในสหรัฐอเมริกา
อาการและสาเหตุ
มะเร็งตับอ่อนจัดเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรงเนื่องจากตรวจพบได้ยากและอาการในระยะแรกไม่จำเพาะ ผู้ป่วยอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสียเบื่ออาหาร ตัวเหลือง หรือไม่มีอาการเลยก็ได้ แต่พบจากการตรวจสุขภาพทั่วไปที่แพทย์เกิดข้อสงสัยจากผลการตรวจเลือด และแนะนำให้ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
สำหรับสาเหตุของโรคนั้น ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่งานวิจัยพบว่าการสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสัตว์ในปริมาณสูงรวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคได้ เช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง หรือผู้ป่วยที่มีถุงน้ำในตับอ่อน
การรักษา
การผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งทำได้ในกรณีที่ตรวจพบเร็วและมะเร็งยังไม่แพร่กระจาย
“หลายครั้งที่กว่าจะพบ ผู้ป่วยก็เป็นมากแล้วคืออยู่ในระยะที่ไม่สามารถผ่าตัดได้และมีอัตราการรอดชีวิตต่ำ ดังนั้น เราจะแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี” นพ.รุจาพงศ์ แนะนำในช่วงท้ายการเจ็บป่วยนั้น บางครั้งอาจยังไม่ทราบสาเหตุและไม่มีอาการบ่งชี้เฉพาะ อย่านิ่งนอนใจหากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพราะเรื่องของสุขภาพนั้นประมาทไม่ได้ ลุงหมอ?
โรคที่เกิดกับตับอ่อนที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ โรคตับอ่อนอักเสบ ซึ่งนพ.รุจาพงศ์ อธิบายว่า เป็นภาวะที่น้ำย่อยในตับอ่อนไม่สามารถไหลผ่านท่อของตับอ่อนได้ ทำให้เกิดการย่อยเนื้อเยื่อของตัวตับอ่อนเอง ส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้น เมื่อมีการอักเสบหลายครั้งเข้าก็จะกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง และจะเริ่มมีหินปูนไปเกาะที่ตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนมีขนาดเล็กลง สมรรถภาพในการทำงานลดลง
“การอักเสบของตับอ่อนแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ การอักเสบแบบเฉียบพลัน และการอักเสบแบบเรื้อรัง โดยผู้ป่วยจะมีอาการอักเสบแบบเฉียบพลันก่อน หากโรคไม่หายขาดหรือกลับมาเป็นอีกเพราะสาเหตุยังคงอยู่ ก็จะกลายเป็นการอักเสบแบบเรื้อรัง”
ในการอักเสบแบบเฉียบพลันนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องอย่างมากและปวดตลอดเวลา โดยจะปวดร้าวไปทางด้านหลังเหมือนโดนมีดแทงนอกจากนี้ยังอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย แต่ก็เป็นไปได้ที่ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีอาการปวดเลยแต่พบได้น้อยมาก ส่วนการอักเสบแบบเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจปวดท้องไม่มากแต่มักมีอาการอื่น ๆ ตามมา เช่น ปวดท้องเรื้อรัง ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ เกิดโรคเบาหวาน ท้องเสียเรื้อรังเพราะไม่สามารถย่อยไขมันได้ ถ่ายอุจจาระมีไขมันลอยอยู่ น้ำหนักลด มีอาการตาเหลืองตัวเหลือง เป็นต้น
ปัจจัยการเกิดโรค
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักและนิ่วในถุงน้ำดีเป็นสาเหตุหลักของโรคที่พบได้มากที่สุด ส่วนสาเหตุอื่นๆ ได้แก่ ภาวะไตรกลีเซอไรด์สูง ผลข้างเคียงของยาบางชนิด โรคภูมิต้านตนเอง มีพยาธิหรือไวรัสบางอย่าง “มีประมาณร้อยละ 5 – 10 ที่เราไม่พบสาเหตุของโรค ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงมีโอกาสกลับมาเป็นโรคได้อีก เพราะเราไม่รู้ว่าต้นเหตุคืออะไร” นพ. รุจาพงศ์กล่าว
การวินิจฉัยและรักษา
ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบที่มีอาการไม่รุนแรงมักมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ท้องอืด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ซึ่งการตรวจเลือดเพื่อดูเอนไซม์ของตับอ่อนที่ขึ้นสูง
ร่วมกับการทำอัลตราซาวนด์และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ว่ามีอาการตับอ่อนอักเสบหรือไม่
เมื่อพบว่าผู้ป่วยมีอาการตับอ่อนอักเสบ แพทย์จะทำการรักษาโดยให้ งดน้ำ งดอาหาร เพื่อหยุดการทำงานของตับอ่อน ร่วมกับการให้ยาลดอาการปวด และให้น้ำ 24 - 48 ชั่วโมงเพราะผู้ป่วยจะมีอาการของภาวะขาดน้ำ ในกรณีที่มีการอักเสบมากจนเกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อตับอ่อน จะมีโอกาสติดเชื้อสูง แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะและอาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อเปิดเข้าไปล้างทำความสะอาด
“โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันสามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าตรวจพบสาเหตุของโรค เช่น พบว่ามีนิ่วในถุงน้ำดีเราก็ผ่าตัดออกไป ดังนั้นถ้าตรวจพบเร็วและไม่มีโรคแทรกซ้อน โรคนี้ถือเป็นโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ส่วนโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรังที่ยังหาสาเหตุไม่ได้นั้น ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่โรคอาจพัฒนาไปเป็นโรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน หรือมะเร็งในตับอ่อนได้”
มะเร็งตับอ่อน
แม้จะพบไม่บ่อยนักในประเทศไทย แต่จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อนก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ขณะที่องค์การอนามัยโลกรายงานว่ามะเร็งตับอ่อนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับเจ็ดของการเสียชีวิตจากมะเร็งทั่วโลกและเป็นอันดับสี่ในสหรัฐอเมริกา
อาการและสาเหตุ
มะเร็งตับอ่อนจัดเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรงเนื่องจากตรวจพบได้ยากและอาการในระยะแรกไม่จำเพาะ ผู้ป่วยอาจมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสียเบื่ออาหาร ตัวเหลือง หรือไม่มีอาการเลยก็ได้ แต่พบจากการตรวจสุขภาพทั่วไปที่แพทย์เกิดข้อสงสัยจากผลการตรวจเลือด และแนะนำให้ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
สำหรับสาเหตุของโรคนั้น ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่งานวิจัยพบว่าการสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสัตว์ในปริมาณสูงรวมถึงความผิดปกติทางพันธุกรรม อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคได้ เช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง หรือผู้ป่วยที่มีถุงน้ำในตับอ่อน
การรักษา
การผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออกเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งทำได้ในกรณีที่ตรวจพบเร็วและมะเร็งยังไม่แพร่กระจาย
“หลายครั้งที่กว่าจะพบ ผู้ป่วยก็เป็นมากแล้วคืออยู่ในระยะที่ไม่สามารถผ่าตัดได้และมีอัตราการรอดชีวิตต่ำ ดังนั้น เราจะแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ อาจจะทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี” นพ.รุจาพงศ์ แนะนำในช่วงท้ายการเจ็บป่วยนั้น บางครั้งอาจยังไม่ทราบสาเหตุและไม่มีอาการบ่งชี้เฉพาะ อย่านิ่งนอนใจหากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเพราะเรื่องของสุขภาพนั้นประมาทไม่ได้ ลุงหมอ?
แก้ไขล่าสุดโดย ลุงหมอ เมื่อ Sun Jan 24, 2016 11:34 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง