ลูกเป็นเริม .. งูสวัด ? ลุงหมอใช้ น้ำหมัก หรือเปลือกพุทรา 3 ชิ้น ตำ ละเอียด และ เติม เหล้าขาว 2 เท่า เช็ดล้างผิว แล้วทาประจำ ทั้งวัน ปกติ 24 - 48 ช.ม. หายครับ หรือใช้ สมุนไพร ต่อไปนี้ ผสม เหล้าขาทา สมุนไพรรักษาโรคงูสวัด
++เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum (Curtis) P. Karst) จากข้อมูลระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัว อย่างไวรัสเอดส์ อีสุกอีใส และงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)+
-ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata (Burm.f.) Nees) ให้รับประทานยาฟ้าทะลายโจรก่อนอาหาร 2-3 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ เนื่องจากงูสวัดคือเชื้อไวรัสที่จะอยู่นาน 3 สัปดาห์ ถ้าใช้รักษาให้ครบตามเวลา ก็จะทำให้ไม่กลับมาเป็นอีก
-พลูคาว (Houttuynia cordata Thunb.) จากข้อมูลระบุว่าพลูคาวมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสชนิดต่าง ๆ เช่น ไข้ทรพิษ หัด เริม เอดส์ รวมถึงงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
--รางจืด (Thunbergia laurifolia Lindl.) ใบและรากมีสรรพคุณเป็นยาต้านการอักเสบต่าง ๆ เช่น อาการผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย เริม อีสุกอีใส รวมทั้งงูสวัด
-ย่านาง (Limacia triandra Miers) จากข้อมูลระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้สามารถใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้และวิธีใช้เอาไว้
-มะรุม (Moringa oleifera Lam.) จากข้อมูลระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้สามารถใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้และวิธีใช้เอาไว้
- กระชับ (Xanthium strumarium L.) ใช้ส่วนของใบเป็นยาแก้พิษงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
กระแตไต่ไม้ (Drynaria quercifolia (L.) J. Sm.) ใช้เหง้านำมาฝนทาแก้งูสวัด
- กระพังโหม (Paederia foetida L.) มีข้อมูลระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้ใช้รักษาโรคงูสวัดได้แต่ แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้เอาไว้ (แต่คาดว่าน่าจะใช้ทั้งต้นและใบ)
- ก้างปลาเครือ (Phyllanthus reticulatus Poir.) รากมีสรรพคุณเป็นยาขับพิษ ใช้ฝาทาแก้งูสวัดได้
กำจัดดอย (Zanthoxylum acanthopodium DC.) ตามรายงานระบุว่า นอกจากจะใช้เมล็ดกำจัดดอยเป็นยาแก้อีสุกอีใสได้แล้ว ยังใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ด้วย
- เขยตาย (Glycosmis pentaphylla (Retz.) DC.) ใช้ใบเขยตายนำมาขยี้หรือบดผสมกับเหล้าขาวหรือแอลกอฮอล์หรือน้ำมะนาว ใช้เป็นยาทารักษางูสวัด
- จักรนารายณ์ (Gynura divaricata (L.) DC.) ด้วยการนำใบมาตำกับน้ำตาลทรายแดง เพื่อให้จับตัวกันเป็นก้อน ๆ และไม่หลุดได้ง่าย แล้วนำมาพอกตรงรอยแผลทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือจะนำใบมาคั้นเอาแต่น้ำใช้ทาสด ๆ หรือใช้ตำพอกเลยก็ได้
- ชุมเห็ดไทย (Senna tora (L.) Roxb.) ให้ใช้รากสด ๆ นำมาบดผสมกับน้ำมะนาวใช้รักษางูสวัด
ตะขาบหิน (Homalocladium platycladum (F.Muell.) L.H.Bailey) ใช้ทั้งต้นเป็นยาภายนอกแก้โรคงูสวัด
- ตำลึง (Coccinia grandis (L.) Voigt) ให้ใช้ใบตำลึงสด ๆ ประมาณ 2 กำมือ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาผสมกับพิมเสนหรือดินสอพอง 1 ใน 4 ส่วน ใช้เป็นยาพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด
- เทียนบ้าน (Impatiens balsamina L.) ให้ใช้ต้นสด นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำดื่มเป็นยา ส่วนกากที่เหลือให้เอามาพอกบริเวณที่เป็น
น้อยหน่า (Annona squamosa L.) ผลแห้งมีสรรพคุณเป็นยาแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
- นางแย้ม (Clerodendrum chinense (Osbeck) Mabb.) ให้นำรากมาฝนกับน้ำปูนใส ใช้เป็นยาทารักษางูสวัด
- น้ำเต้า (Lagenaria siceraria (Molina) Standl.) ให้ใช้ใบน้ำเต้าสด ๆ นำมาโขลกผสมกับเหล้าขาว หรือโขลกเพื่อคั้นเอาแต่น้ำ หรือใช้ใบสดผสมกับขี้วัวแห้งหรือขี้วัวสด โดยโขลกให้เข้ากันจนได้ที่ แล้วผสมกับเหล้าขาว 40 ดีกรี (การผสมขี้วัวเข้าใจว่าขี้วัวมีแอมโมเนีย จึงทำให้เย็นและช่วยถอนพิษอักเสบได้ดีกว่าตัวยาอื่น) ใช้เป็นยาทาถอนพิษร้อน ดับพิษ แก้อาการฟกช้ำบวม พุพอง แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน รักษาอาการพองตามผิวหนังตามตัว แก้เริม รวมทั้งงูสวัดได้ดี
- น้ำนมราชสีห์เล็ก (Euphorbia thymifolia L.) ใช้ส่วนของต้นเป็นยาแก้งูสวัดขึ้นรอบเอว ด้วยการใช้ต้นสดประมาณ 1 กำมือ และ - --กระเทียม 1 หัว นำมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำสุดที่เย็นแล้ว ใช้ทาบริเวณที่เป็นตุ่ม
-ปลาไหลเผือก (Eurycoma longifolia Jack) ให้ใช้ยาผง (จากปลาไหลเผือก) ผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมาใช้ทารอบแผลอย่างช้า ๆ
ผักเชียงดา (Gymnema inodorum (Lour.) Decne.) ใช้ใบสดตำพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด
+ผักบุ้งทะเล (Ipomoea pes-caprae (L.) R. Br.) ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยกระจายพิษ แก้พิษฝีบวม ฝีหนองบวมแดงอักเสบ รวมทั้งช่วยแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
-ผักเป็ดน้ำ (Alternanthera philoxeroides (Mart.) Griseb.) ใช้ทั้งต้นสด ๆ นำมาตำพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด
++ผักเสี้ยน (Cleome gynandra L.) ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
พญาท้าวเอว (Oxyceros bispinosus (Griff.) Tirveng.) ด้วยการใช้ลำต้นนำมาฝนกับน้ำปูนใสกินเป็นยาแก้งูสวัด
-พุดตาน (Hibiscus mutabilis L.) ให้ใช้ใบสดประมาณ 4-5 ใบ นำมาล้างน้ำสะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำซาวข้าวลงไป แล้วนำมาใช้ทาบริเวณที่เป็นบ่อย ๆ หรืออีกวิธีก็คือการใช้รากพุดตานสดนำมาตำแล้วพอก หรือจะนำรากแห้งมาบดให้เป็นผงผสมแล้วใช้พอกก็ได้
-เพกา (Oroxylum indicum (L.) Kurz) ให้ใช้เปลือกต้นเพกา เปลือกคูณ และรากต้นหมูหนุน นำมาฝนใส่น้ำทาบริเวณที่เป็น จะช่วยให้โรคงูสวัดหายเร็วขึ้น
- แพงพวยน้ำ (Ludwigia adscendens (L.) H.Hara) ใช้ทั้งต้นเป็นยารักษาโรคงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
-มันเทศ (Ipomoea batatas (L.) Lam.) ตำรายาไทยจะใช้หัวมันเทศนำมาตำให้ละเอียดใช้พอกแผล รักษาเริม และงูสวัด
-ไมยราบ (Mimosa pudica L.) จากข้อมูลระบุว่าใบไมยราบมีสรรพคุณช่วยแก้อาการงูสวัดได้ (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
--ลางสาด (Lansium parasiticum (Osbeck) K.C.Sahni & Bennet) ตามข้อมูลระบุว่าเมล็ดลางสดมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
--ว่านมหากาฬ (Gynura pseudochina (L.) DC.) ใช้ใบสดใช้ตำพอกรักษางูสวัด โดยใช้ใบสดประมาณ 5-6 ใบ นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำในภาชนะที่สะอาด ใส่พิมเสนเล็กน้อย หรือใช้ใบโขลกผสมกับเหล้า แล้วเอาน้ำที่ได้มาทาหรือพอกบริเวณที่เป็น
---สตรอเบอรี่ป่า (Duchesnea indica (Jacks.) Focke) ใบและก้านใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังผดผื่นคัน ฝีมีหนอง รวมทั้งงูสวัด
สนุ่น (Salix tetrasperma Roxb.) ใบสนุ่นมีรสจืดเย็นเมา น้ำคั้นจากใบสด ใช้เป็นยาทา พอก หรือพ่นแก้พิษงูสวัดได้
---สายน้ำผึ้ง (Lonicera japonica Thunb.) ผู้ที่เป็นงูสวัดที่ดูเหมือนแผลจะหายดีแล้ว แต่ยังมีพิษของโรคงูสวัดตกค้างในร่างกาย คือมีอาการปวดแสบปวดร้อนและบวม ให้ใช้ดอกสายน้ำผึ้ง 10 กรัม, ใบโด่ไม่รู้ล้ม 10 กรัม, ข้าวเย็นเหนือ 30 กรัม, และข้าวเย็นใต้ 30 กรัม (แบบแห้งทั้งหมด) นำมาต้มรวมกันในน้ำ 1 ลิตร จนเดือด ใช้ดื่มในขณะอุ่นครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยให้ดื่มไปเรื่อย ๆ จะช่วยขับพิษของโรคงูสวัดที่ตกค้างในร่างกายออกได้ และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปในที่สุด
---เสลดพังพอนตัวผู้ (Barleria lupulina Lindl.) เสลดพังพอนตัวผู้ ให้ใช้ใบสด (ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป) ประมาณ 10-20 ใบ นำมาตำผสมกับเหล้าหรือน้ำมะนาว คั้นเอาน้ำดื่มหรือเอาน้ำทาและเอากากพอกบริเวณที่เป็น (วิธีการใช้จะเหมือนกับเสลดพังพอตัวเมีย แต่เสลดพังพอตัวผู้จะมีฤทธิ์ทางยาอ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย ชาวบ้านจึงนิยมใช้เสลดพังพอนมาทำเป็นยาเสียมากกว่า)
---เสลดพังพอนตัวเมีย หรือ พญายอ (Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau) ให้ใช้ใบเสลดพังพองตัวเมียสด ๆ ประมาณ 10-20 ใบ (เลือกเอาเฉพาะใบสดสีเขียวเข้มเป็นมน ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป) นำมาตำผสมกับเหล้าหรือน้ำมะนาวคั้นเอาน้ำดื่มหรือเอาน้ำมาทาและเอากากพอกบริเวณที่เป็น ส่วนตำรับยาแก้งูสวัดอีกตำรับจะใช้ใบเสลดพังพอนตัวเมียสด ๆ นำมาผสมกับดอกลำโพง และ--- -โกฐน้ำเต้า อย่างละเท่ากัน รวมกันตำให้พอแหลก แช่กับเหล้า แล้วนำมาใช้ทาแก้แผลงูสวัด
แสมสาร (Senna garrettiana (Craib) H.S.Irwin & Barneby) ใช้ใบเป็นยาบำบัดโรคงูสวัด
++หญ้าเกล็ดหอยเทศ (Hydrocotyle sibthorpioides Lam.) ใช้ทั้งต้นนำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปแช่ในแอลกอฮอล์ 6 ชั่วโมง จากนั้นนำมาทาบริเวณที่เป็นแผลงูสวัด
++หญ้าดอกขาว (Cyanthillium cinereum (L.) H.Rob.) ใช้ทั้งต้นเป็นยาภายนอกแก้งูสวัด
หญ้าพันงูแดง (Cyathula prostrata (L.) Blume) ใช้ใบสดตำพอกแก้งูสวัด
++หวดหม่อน (Clausena excavata Burm.f.) ตำรับยาพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากหวดหม่อนนำมาฝนกับน้ำดื่มเป็นยาแก้โรคงูสวัด
เหงือกปลาหมอ (Acanthus ebracteatus Vahl) ให้ใช้รากสดนำมาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้
+อ้อย (Saccharum officinarum L.) ใช้ส่วนของต้นเป็นยารักษาโรคงูสวัด ลองดูครับ
++เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum (Curtis) P. Karst) จากข้อมูลระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัว อย่างไวรัสเอดส์ อีสุกอีใส และงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)+
-ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata (Burm.f.) Nees) ให้รับประทานยาฟ้าทะลายโจรก่อนอาหาร 2-3 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ เนื่องจากงูสวัดคือเชื้อไวรัสที่จะอยู่นาน 3 สัปดาห์ ถ้าใช้รักษาให้ครบตามเวลา ก็จะทำให้ไม่กลับมาเป็นอีก
-พลูคาว (Houttuynia cordata Thunb.) จากข้อมูลระบุว่าพลูคาวมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสชนิดต่าง ๆ เช่น ไข้ทรพิษ หัด เริม เอดส์ รวมถึงงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
--รางจืด (Thunbergia laurifolia Lindl.) ใบและรากมีสรรพคุณเป็นยาต้านการอักเสบต่าง ๆ เช่น อาการผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย เริม อีสุกอีใส รวมทั้งงูสวัด
-ย่านาง (Limacia triandra Miers) จากข้อมูลระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้สามารถใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้และวิธีใช้เอาไว้
-มะรุม (Moringa oleifera Lam.) จากข้อมูลระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้สามารถใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้และวิธีใช้เอาไว้
- กระชับ (Xanthium strumarium L.) ใช้ส่วนของใบเป็นยาแก้พิษงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
กระแตไต่ไม้ (Drynaria quercifolia (L.) J. Sm.) ใช้เหง้านำมาฝนทาแก้งูสวัด
- กระพังโหม (Paederia foetida L.) มีข้อมูลระบุว่าสมุนไพรชนิดนี้ใช้รักษาโรคงูสวัดได้แต่ แต่ไม่ได้ระบุส่วนที่ใช้เอาไว้ (แต่คาดว่าน่าจะใช้ทั้งต้นและใบ)
- ก้างปลาเครือ (Phyllanthus reticulatus Poir.) รากมีสรรพคุณเป็นยาขับพิษ ใช้ฝาทาแก้งูสวัดได้
กำจัดดอย (Zanthoxylum acanthopodium DC.) ตามรายงานระบุว่า นอกจากจะใช้เมล็ดกำจัดดอยเป็นยาแก้อีสุกอีใสได้แล้ว ยังใช้รักษาโรคเริมและงูสวัดได้ด้วย
- เขยตาย (Glycosmis pentaphylla (Retz.) DC.) ใช้ใบเขยตายนำมาขยี้หรือบดผสมกับเหล้าขาวหรือแอลกอฮอล์หรือน้ำมะนาว ใช้เป็นยาทารักษางูสวัด
- จักรนารายณ์ (Gynura divaricata (L.) DC.) ด้วยการนำใบมาตำกับน้ำตาลทรายแดง เพื่อให้จับตัวกันเป็นก้อน ๆ และไม่หลุดได้ง่าย แล้วนำมาพอกตรงรอยแผลทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที หรือจะนำใบมาคั้นเอาแต่น้ำใช้ทาสด ๆ หรือใช้ตำพอกเลยก็ได้
- ชุมเห็ดไทย (Senna tora (L.) Roxb.) ให้ใช้รากสด ๆ นำมาบดผสมกับน้ำมะนาวใช้รักษางูสวัด
ตะขาบหิน (Homalocladium platycladum (F.Muell.) L.H.Bailey) ใช้ทั้งต้นเป็นยาภายนอกแก้โรคงูสวัด
- ตำลึง (Coccinia grandis (L.) Voigt) ให้ใช้ใบตำลึงสด ๆ ประมาณ 2 กำมือ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาผสมกับพิมเสนหรือดินสอพอง 1 ใน 4 ส่วน ใช้เป็นยาพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด
- เทียนบ้าน (Impatiens balsamina L.) ให้ใช้ต้นสด นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำดื่มเป็นยา ส่วนกากที่เหลือให้เอามาพอกบริเวณที่เป็น
น้อยหน่า (Annona squamosa L.) ผลแห้งมีสรรพคุณเป็นยาแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
- นางแย้ม (Clerodendrum chinense (Osbeck) Mabb.) ให้นำรากมาฝนกับน้ำปูนใส ใช้เป็นยาทารักษางูสวัด
- น้ำเต้า (Lagenaria siceraria (Molina) Standl.) ให้ใช้ใบน้ำเต้าสด ๆ นำมาโขลกผสมกับเหล้าขาว หรือโขลกเพื่อคั้นเอาแต่น้ำ หรือใช้ใบสดผสมกับขี้วัวแห้งหรือขี้วัวสด โดยโขลกให้เข้ากันจนได้ที่ แล้วผสมกับเหล้าขาว 40 ดีกรี (การผสมขี้วัวเข้าใจว่าขี้วัวมีแอมโมเนีย จึงทำให้เย็นและช่วยถอนพิษอักเสบได้ดีกว่าตัวยาอื่น) ใช้เป็นยาทาถอนพิษร้อน ดับพิษ แก้อาการฟกช้ำบวม พุพอง แก้โรคผิวหนัง ผื่นคัน รักษาอาการพองตามผิวหนังตามตัว แก้เริม รวมทั้งงูสวัดได้ดี
- น้ำนมราชสีห์เล็ก (Euphorbia thymifolia L.) ใช้ส่วนของต้นเป็นยาแก้งูสวัดขึ้นรอบเอว ด้วยการใช้ต้นสดประมาณ 1 กำมือ และ - --กระเทียม 1 หัว นำมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำสุดที่เย็นแล้ว ใช้ทาบริเวณที่เป็นตุ่ม
-ปลาไหลเผือก (Eurycoma longifolia Jack) ให้ใช้ยาผง (จากปลาไหลเผือก) ผสมกับน้ำมะนาว แล้วนำมาใช้ทารอบแผลอย่างช้า ๆ
ผักเชียงดา (Gymnema inodorum (Lour.) Decne.) ใช้ใบสดตำพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด
+ผักบุ้งทะเล (Ipomoea pes-caprae (L.) R. Br.) ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยกระจายพิษ แก้พิษฝีบวม ฝีหนองบวมแดงอักเสบ รวมทั้งช่วยแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
-ผักเป็ดน้ำ (Alternanthera philoxeroides (Mart.) Griseb.) ใช้ทั้งต้นสด ๆ นำมาตำพอกบริเวณที่เป็นงูสวัด
++ผักเสี้ยน (Cleome gynandra L.) ใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้งูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
พญาท้าวเอว (Oxyceros bispinosus (Griff.) Tirveng.) ด้วยการใช้ลำต้นนำมาฝนกับน้ำปูนใสกินเป็นยาแก้งูสวัด
-พุดตาน (Hibiscus mutabilis L.) ให้ใช้ใบสดประมาณ 4-5 ใบ นำมาล้างน้ำสะอาด ตำให้ละเอียด เติมน้ำซาวข้าวลงไป แล้วนำมาใช้ทาบริเวณที่เป็นบ่อย ๆ หรืออีกวิธีก็คือการใช้รากพุดตานสดนำมาตำแล้วพอก หรือจะนำรากแห้งมาบดให้เป็นผงผสมแล้วใช้พอกก็ได้
-เพกา (Oroxylum indicum (L.) Kurz) ให้ใช้เปลือกต้นเพกา เปลือกคูณ และรากต้นหมูหนุน นำมาฝนใส่น้ำทาบริเวณที่เป็น จะช่วยให้โรคงูสวัดหายเร็วขึ้น
- แพงพวยน้ำ (Ludwigia adscendens (L.) H.Hara) ใช้ทั้งต้นเป็นยารักษาโรคงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
-มันเทศ (Ipomoea batatas (L.) Lam.) ตำรายาไทยจะใช้หัวมันเทศนำมาตำให้ละเอียดใช้พอกแผล รักษาเริม และงูสวัด
-ไมยราบ (Mimosa pudica L.) จากข้อมูลระบุว่าใบไมยราบมีสรรพคุณช่วยแก้อาการงูสวัดได้ (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
--ลางสาด (Lansium parasiticum (Osbeck) K.C.Sahni & Bennet) ตามข้อมูลระบุว่าเมล็ดลางสดมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคงูสวัด (ตามข้อมูลไม่ได้ระบุวิธีใช้เอาไว้)
--ว่านมหากาฬ (Gynura pseudochina (L.) DC.) ใช้ใบสดใช้ตำพอกรักษางูสวัด โดยใช้ใบสดประมาณ 5-6 ใบ นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำในภาชนะที่สะอาด ใส่พิมเสนเล็กน้อย หรือใช้ใบโขลกผสมกับเหล้า แล้วเอาน้ำที่ได้มาทาหรือพอกบริเวณที่เป็น
---สตรอเบอรี่ป่า (Duchesnea indica (Jacks.) Focke) ใบและก้านใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนังผดผื่นคัน ฝีมีหนอง รวมทั้งงูสวัด
สนุ่น (Salix tetrasperma Roxb.) ใบสนุ่นมีรสจืดเย็นเมา น้ำคั้นจากใบสด ใช้เป็นยาทา พอก หรือพ่นแก้พิษงูสวัดได้
---สายน้ำผึ้ง (Lonicera japonica Thunb.) ผู้ที่เป็นงูสวัดที่ดูเหมือนแผลจะหายดีแล้ว แต่ยังมีพิษของโรคงูสวัดตกค้างในร่างกาย คือมีอาการปวดแสบปวดร้อนและบวม ให้ใช้ดอกสายน้ำผึ้ง 10 กรัม, ใบโด่ไม่รู้ล้ม 10 กรัม, ข้าวเย็นเหนือ 30 กรัม, และข้าวเย็นใต้ 30 กรัม (แบบแห้งทั้งหมด) นำมาต้มรวมกันในน้ำ 1 ลิตร จนเดือด ใช้ดื่มในขณะอุ่นครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยให้ดื่มไปเรื่อย ๆ จะช่วยขับพิษของโรคงูสวัดที่ตกค้างในร่างกายออกได้ และอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปในที่สุด
---เสลดพังพอนตัวผู้ (Barleria lupulina Lindl.) เสลดพังพอนตัวผู้ ให้ใช้ใบสด (ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป) ประมาณ 10-20 ใบ นำมาตำผสมกับเหล้าหรือน้ำมะนาว คั้นเอาน้ำดื่มหรือเอาน้ำทาและเอากากพอกบริเวณที่เป็น (วิธีการใช้จะเหมือนกับเสลดพังพอตัวเมีย แต่เสลดพังพอตัวผู้จะมีฤทธิ์ทางยาอ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมีย ชาวบ้านจึงนิยมใช้เสลดพังพอนมาทำเป็นยาเสียมากกว่า)
---เสลดพังพอนตัวเมีย หรือ พญายอ (Clinacanthus nutans (Burm.f.) Lindau) ให้ใช้ใบเสลดพังพองตัวเมียสด ๆ ประมาณ 10-20 ใบ (เลือกเอาเฉพาะใบสดสีเขียวเข้มเป็นมน ไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป) นำมาตำผสมกับเหล้าหรือน้ำมะนาวคั้นเอาน้ำดื่มหรือเอาน้ำมาทาและเอากากพอกบริเวณที่เป็น ส่วนตำรับยาแก้งูสวัดอีกตำรับจะใช้ใบเสลดพังพอนตัวเมียสด ๆ นำมาผสมกับดอกลำโพง และ--- -โกฐน้ำเต้า อย่างละเท่ากัน รวมกันตำให้พอแหลก แช่กับเหล้า แล้วนำมาใช้ทาแก้แผลงูสวัด
แสมสาร (Senna garrettiana (Craib) H.S.Irwin & Barneby) ใช้ใบเป็นยาบำบัดโรคงูสวัด
++หญ้าเกล็ดหอยเทศ (Hydrocotyle sibthorpioides Lam.) ใช้ทั้งต้นนำมาตำให้ละเอียด แล้วนำไปแช่ในแอลกอฮอล์ 6 ชั่วโมง จากนั้นนำมาทาบริเวณที่เป็นแผลงูสวัด
++หญ้าดอกขาว (Cyanthillium cinereum (L.) H.Rob.) ใช้ทั้งต้นเป็นยาภายนอกแก้งูสวัด
หญ้าพันงูแดง (Cyathula prostrata (L.) Blume) ใช้ใบสดตำพอกแก้งูสวัด
++หวดหม่อน (Clausena excavata Burm.f.) ตำรับยาพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานีจะใช้รากหวดหม่อนนำมาฝนกับน้ำดื่มเป็นยาแก้โรคงูสวัด
เหงือกปลาหมอ (Acanthus ebracteatus Vahl) ให้ใช้รากสดนำมาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้
+อ้อย (Saccharum officinarum L.) ใช้ส่วนของต้นเป็นยารักษาโรคงูสวัด ลองดูครับ