บ้าน
ท่านใดเคยหมักใบชาบ้างค่ะ มาแบ่งปันกันหน่อยค่ะ 
5 posters
น้ำหมักใบชา
หนูแดง- สมาชิกทั่วไป
- จำนวนข้อความ : 394
Join date : 08/06/2011
ที่อยู่ : เมืองขอนแก่น
ท่านใดเคยหมักใบชาบ้างค่ะ มาแบ่งปันกันหน่อยค่ะ 
บุญธรรม- สมาชิกทั่วไป
- จำนวนข้อความ : 92
Join date : 08/10/2011
ที่อยู่ : ป่าลาน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
เพิ่มเติมอีกอย่างจ่ะ...แครอท หมักได้ไหม..?
ลุงหมอ- ผู้ก่อตั้ง
- จำนวนข้อความ : 6844
Join date : 20/11/2010
หนูแดง พิมพ์ว่า:
ยอมแพ้จ้า ไม่มีใบชาสด มีแต่ แห้งๆ แต่ความจริงชงชา แล้วรอให้น้ำเย็นก่อนเอามาผสมน้ำตาลหมัก กับน้ำวุ้น ได้จ้า แบบป้าเช็ง พาทำไง
สามารถสรุปประโยชน์ของชาทุกชนิดได้ดังนี้dddd- ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง เพราะมีการกระตุ้นขบวนการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย
dddd- ช่วยย่อยอาหารละลายไขมัน
dddd- ป้องกันโรคกระเพาะอาหารที่เรื้อรังช่วยป้องกันและลดคลอเรสเตอรอลได้ดี
dddd- สามารถป้องกันและต่อต้านขบวนการเกิดมะเร็ง (Anti carcinogenic)
dddd- สามารถป้องกันหรือลดความอ้วนได้ด้วยการดูดซึมน้ำตาลและไขมันในลำไส้เล็กช่วยชะลอความชราและบำรุงผิวพรรณ
dddd- การดื่มชาหรือเคี้ยวใบชาเป็นประจำจะช่วยรักษาเหงือกและป้องกันฟันผุได้
ddddสรรพคุณเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ที่มีอยู่ในชาทุกชนิด แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับพันธุ์ชา การดูแลต้นชาและเทคนิคการผลิตใบชา ดังนั้น ดื่มรสชา เลือกความหอม ตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบ และดื่มชาให้ถูกวิธีจึงจะได้ประโยชน์จากการดื่มมากที่สุด
โทษของชา
ddddอย่างไรก็ตามถึงชาจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากเพียงใด แต่หากได้รับมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน อย่างเช่นความเชื่อหนึ่งของคนจีนที่ว่าการดื่มชาให้อร่อยนั้นจะต้องดื่มตอนร้อนๆ เวลาชงต้องชงที่อุณหภูมิน้ำเดือด แต่หารู้ไม่นั่นอาจก่อให้เกิดโทษอย่างร้านแรง นั่นคือมะเร็งหลอดอาหาร เนื่องจากความร้อนของน้ำชาที่ได้รับทุกครั้ง จะก่อให้เกิดแผลในหลอดอาหาร ดังนั้นหลังจากที่รินน้ำชาออกจากาแล้ว ทิ้งให้อุ่นหรือโดยประมาณ 70 – 80 องศา จะดีต่อร่างกายมากกว่าร้อนจัดๆ
ddddเมื่อท่านรับประทานวิตามินเสริม เช่น ธาตุเหล็ก เกลือแร่ หรือยาที่คล้ายคลึงกัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชาร่วมไปด้วย เพราะ สารสำคัญ จากใบชาจะไปตกตะกอนธาตุเหล็กหรือเกลือแร่จะไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
ddddการดื่มชาขณะท้องว่างเช่น อูหลง หรือทิกวนอิมที่มีความเข้มข้นของออกไซค์อยู่เป็นจำนวนมาก จะทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมีผลทำให้กระเพาะอาหารเป็นแผลได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดกรดในกระเพาะ อาหารควรหันมาทานน้ำชาหลังอาหาร เพื่อป้องกัน และล้างไขมันในอาหารมื้อนั้นจะดีต่อสุขภาพมากกว่า
ddddความเชื่อที่ว่าการดื่มชาหลังรับประทานอาหารจะช่วยลดไขมันที่รับประทานในอาหารมื้อนั้นได้เป็นความจริง แต่โทษต่อร่างกายก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสำคัญที่มีอยู่ในน้ำชาคือ “แทนนิน” จะไปตกตะกอนกับโปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ จากอาหารที่รับประทาน ทำให้ลดการดูดซึมของสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย จึงมีคำแนะนำไม่ให้เด็กดื่มน้ำชาไม่ว่าจะเป็นชาเขียวแช่เย็นหรือชาร้อน เพราะจะทำให้ขาดสารอาหาร
ลุงหมอ
บุญธรรม- สมาชิกทั่วไป
- จำนวนข้อความ : 92
Join date : 08/10/2011
ที่อยู่ : ป่าลาน อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
แครอทด้วยครับลุงหมอ พอดีว่าอ่านในรายละเอียดเขาบอกว่า ถ้าเป็นแครอทสกัดจะทำให้ก่อสารมะเร็ง การหมักถือว่าเป็นการสกัดหรือเปล่าครับหนิลุงหมอ พิมพ์ว่า:หนูแดง พิมพ์ว่า:
dddd- ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรง เพราะมีการกระตุ้นขบวนการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย
dddd- ช่วยย่อยอาหารละลายไขมัน
dddd- ป้องกันโรคกระเพาะอาหารที่เรื้อรังช่วยป้องกันและลดคลอเรสเตอรอลได้ดี
dddd- สามารถป้องกันและต่อต้านขบวนการเกิดมะเร็ง (Anti carcinogenic)
dddd- สามารถป้องกันหรือลดความอ้วนได้ด้วยการดูดซึมน้ำตาลและไขมันในลำไส้เล็กช่วยชะลอความชราและบำรุงผิวพรรณ
dddd- การดื่มชาหรือเคี้ยวใบชาเป็นประจำจะช่วยรักษาเหงือกและป้องกันฟันผุได้
ddddสรรพคุณเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ที่มีอยู่ในชาทุกชนิด แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับพันธุ์ชา การดูแลต้นชาและเทคนิคการผลิตใบชา ดังนั้น ดื่มรสชา เลือกความหอม ตามสไตล์ที่คุณชื่นชอบ และดื่มชาให้ถูกวิธีจึงจะได้ประโยชน์จากการดื่มมากที่สุด
โทษของชา
ddddอย่างไรก็ตามถึงชาจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากเพียงใด แต่หากได้รับมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน อย่างเช่นความเชื่อหนึ่งของคนจีนที่ว่าการดื่มชาให้อร่อยนั้นจะต้องดื่มตอนร้อนๆ เวลาชงต้องชงที่อุณหภูมิน้ำเดือด แต่หารู้ไม่นั่นอาจก่อให้เกิดโทษอย่างร้านแรง นั่นคือมะเร็งหลอดอาหาร เนื่องจากความร้อนของน้ำชาที่ได้รับทุกครั้ง จะก่อให้เกิดแผลในหลอดอาหาร ดังนั้นหลังจากที่รินน้ำชาออกจากาแล้ว ทิ้งให้อุ่นหรือโดยประมาณ 70 – 80 องศา จะดีต่อร่างกายมากกว่าร้อนจัดๆ
ddddเมื่อท่านรับประทานวิตามินเสริม เช่น ธาตุเหล็ก เกลือแร่ หรือยาที่คล้ายคลึงกัน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำชาร่วมไปด้วย เพราะ สารสำคัญ จากใบชาจะไปตกตะกอนธาตุเหล็กหรือเกลือแร่จะไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
ddddการดื่มชาขณะท้องว่างเช่น อูหลง หรือทิกวนอิมที่มีความเข้มข้นของออกไซค์อยู่เป็นจำนวนมาก จะทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารมีผลทำให้กระเพาะอาหารเป็นแผลได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดกรดในกระเพาะ อาหารควรหันมาทานน้ำชาหลังอาหาร เพื่อป้องกัน และล้างไขมันในอาหารมื้อนั้นจะดีต่อสุขภาพมากกว่า
ddddความเชื่อที่ว่าการดื่มชาหลังรับประทานอาหารจะช่วยลดไขมันที่รับประทานในอาหารมื้อนั้นได้เป็นความจริง แต่โทษต่อร่างกายก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสำคัญที่มีอยู่ในน้ำชาคือ “แทนนิน” จะไปตกตะกอนกับโปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ จากอาหารที่รับประทาน ทำให้ลดการดูดซึมของสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย จึงมีคำแนะนำไม่ให้เด็กดื่มน้ำชาไม่ว่าจะเป็นชาเขียวแช่เย็นหรือชาร้อน เพราะจะทำให้ขาดสารอาหาร
ลุงหมอ- ผู้ก่อตั้ง
- จำนวนข้อความ : 6844
Join date : 20/11/2010
แครอทด้วยครับลุงหมอ พอดีว่าอ่านในรายละเอียดเขาบอกว่า ถ้าเป็นแครอทสกัดจะทำให้ก่อสารมะเร็ง การหมักถือว่าเป็นการสกัดหรือเปล่าครับหนิ ? สบายมากครับ เราหมักโดยเอ็มไซน์ ธรรมชาติ จึงได้สารอาหาร สมุนไพรครบถ้วน เยื่ยม ธรรมชาติ ที่สุด? การหมัก เปรียบเหมือน เอ็มไซน์ ย่อย หมักขยาย ใน ลำใส้? ไม่มีพิษภัย ถ้าไม่ได้ชุบสารพิษมา ถึง มีติดมาก็จะ ละลายหมดไป ในเวลา 1 ปีจ้า จึง..ให้รอหมัก 1 ปี ถ้า ไม่มั่นใจ?
ส่วนการสกัด เขา จะปั่นละเอียดก่อนให้ชิ้นเล็กๆที่สุด แล้ว บีบคั้นด้วย แรงสูง นำ น้ำที่ได้ ไปฉีด เสปย์ไดร์ย ผ่าน ความร้อน หรือเย็น เพื่อให้แห้ง เป็นผงละเอียด แล้วเก็บรวมผง บรรจุ / อัดเม็ด?อีกครัง 
ตรงนี้ ละครับ ที่ ผ่านร้อน หรือเย็น ผิดธรรมชาติ สารอาหาร สมุนไพร เกิดการ เปลี่ยนแปลง กลายเป็นพิษ ไม่เหมาะ ใช้กับอาหารธรรมชาติกลายเป็นเคมี เป็นสารพิษ จากการเปลี่ยนแปลง โดยฉับพลัน เช่น งา แครอท และยาเคมี ทั้งหลายที่ มีพิษ ตามมาภายหลัง ? ตรงนี้ ร.ง. ยา เขารู้ จึงมีการกำหนดอายุยา นั่น หมายความว่า เขา กำลัง เกิดพิษ ตามธรรมชาติภายหลังไง ละครับผม พี่น้อง 
แต่ระบบหมักเอ็มไซน์เป็นการ ย่อยสลายโดย ธรรมชาติ ที่ นำไปแก้พิษทั้งหลาย อันเกิดจาก ยาเคมี เช่นเดียวกับ เอ็มไซน์ ของพิษงู " เป็นเซรุ่ม " ในการ แก้ ทำลายพิษงูไงละครับ 
nanan- สมาชิกทั่วไป
- จำนวนข้อความ : 5
Join date : 24/01/2013
หมักนะคะ ก็ใบชาที่ชงแล้วนี่แหละค่ะ รอให้เย็น ก็ผสมน้ำตาลตามส่วนใส่รอไว้ในขวดเพ็ท 6 ลิตร แล้วก็ทะยอยใส่ไปเรื่อยค่ะ จนกว่าจะเต็มขวด ตอนนี้ยังไม่เต็มค่ะ หลายเดือนแล้วเพิ่งได้ยังไม่ถึงครึ่ง เพราะทานชาอยู่คนเดียวในบ้านทานวันละไม่มาก กลิ่นก็หอมดีค่ะ
เคยดูรายการช่องป้าเช็งเห็นบางท่านที่ไปเยี่ยมบ้านก็มีหมักใบชาสดนี่คะ
เคยดูรายการช่องป้าเช็งเห็นบางท่านที่ไปเยี่ยมบ้านก็มีหมักใบชาสดนี่คะ
ลุงหมอ- ผู้ก่อตั้ง
- จำนวนข้อความ : 6844
Join date : 20/11/2010
nanan พิมพ์ว่า:หมักนะคะ ก็ใบชาที่ชงแล้วนี่แหละค่ะ รอให้เย็น ก็ผสมน้ำตาลตามส่วนใส่รอไว้ในขวดเพ็ท 6 ลิตร แล้วก็ทะยอยใส่ไปเรื่อยค่ะ จนกว่าจะเต็มขวด ตอนนี้ยังไม่เต็มค่ะ หลายเดือนแล้วเพิ่งได้ยังไม่ถึงครึ่ง เพราะทานชาอยู่คนเดียวในบ้านทานวันละไม่มาก กลิ่นก็หอมดีค่ะ
เคยดูรายการช่องป้าเช็งเห็นบางท่านที่ไปเยี่ยมบ้านก็มีหมักใบชาสดนี่คะ
อย่างที่บอกละครับ ทำชาหมัก ซะเลย โดยจะหมักทั้ง ใบชา ถ้าเป็บชาสด ก็ 1-3-5 ตามสูตร ละครับ ใบชาแห้ง หมักได้ครับ ใช้ 1 - 1 - 6 ละครับ หรือ ชาอายุวัฒนะ กัมบูชา ก็ ใช้ วุ้น 1 น้ำหมัก 1 น้ำผึ้ง 1 น้ำชาที่ชงไว้กรองกากออก เย็นแล้ว 6 ส่วน หมักทิ้งไว้ 90 วัน เป็นชา อายุวัฒนะ ละจ้า ลุงหมอ สวนโพธิ์
nanan- สมาชิกทั่วไป
- จำนวนข้อความ : 5
Join date : 24/01/2013
กราบขอบพระคุณลุงหมอมากค่ะ 
ลุงหมอ- ผู้ก่อตั้ง
- จำนวนข้อความ : 6844
Join date : 20/11/2010
nanan พิมพ์ว่า:กราบขอบพระคุณลุงหมอมากค่ะ
กากชา ไม่ควรทิ้ง นะครับ นำไปใส่ ในนาข้าว ไล่หอย เชอรี่ ได้ละครับ มี ซาโปติน ที่ทำให้หอยสัตว์เลือดเย็น หายใจไม่ออกจ้า ? ลุงหมอ
pimmy- สมาชิกทั่วไป
- จำนวนข้อความ : 129
Join date : 16/08/2012
กระทู้ไม่ได้ขอถามลุงหมอนี้ คนที่เป็นนิ่วในไตต้องทานน้ำหมักด้วยอะไรเจ้าค่ะที่ลุงหมอมีไหมอยากได้เจ้าค่ะลุงหมอ พิมพ์ว่า:nanan พิมพ์ว่า:กราบขอบพระคุณลุงหมอมากค่ะ
ลุงหมอ- ผู้ก่อตั้ง
- จำนวนข้อความ : 6844
Join date : 20/11/2010
pimmy พิมพ์ว่า:ลุงหมอ พิมพ์ว่า:nanan พิมพ์ว่า:กราบขอบพระคุณลุงหมอมากค่ะ
เป็นนิ่ว? ทานน้ำหมัก พวก ของเปรี้ยวละครับสัปปะรส มะเฟือง มะนาว มะกรูด ดอกกระเจี๊ยบแดงฯลฯ ปวดนิ่ว ปวดไตก็ หญ้าหนวดแมวมาต้มทานครับ เดียวก็ละลายออกหมด ลุงหมอก็หมักไว้ละครับ ก็บอกที่อยู่มาจ้า ให้งดเค็มด้วยนะครับทาน ต้มยำแทนไปก่อนจ้า|
|
|