ลุงหมอ สวนโพธิ์

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

2 posters

    ปรึกษาปัญหาสุขภาพค่ะ

    avatar
    supv
    สมาชิกทั่วไป
    สมาชิกทั่วไป


    จำนวนข้อความ : 1
    Join date : 25/08/2012

    ปรึกษาปัญหาสุขภาพค่ะ Empty ปรึกษาปัญหาสุขภาพค่ะ

    ตั้งหัวข้อ  supv Sat Aug 25, 2012 2:16 pm

    รบกวนถามนิดนึงนะคะ
    - คือหนูเป็นริดสีดวงมาหลายปีแล้ว แต่ว่าไม่มีอาการเจ็บเลย แต่ว่ามีเหมือนติ่งเนื้อออกมา เวลาถ่ายก็ไม่เจ็บแต่ว่าเลือดออกเป็นประจำ ไปหาหมอหมอก็ให้ยามาทา หมอบอกว่าเป็นเพราะเหมือนแผลฉีก หนูเป็นคนติดนั่งโถส้วมแบบยองๆ เวลาปัสสาวะบางทีเลือดก็ออกค่ะ หยดเป็นน้ำเลยแต่ถ้าถ่ายหนักก็จะมีเป็นลิ่มเลือดด้วยค่ะ แต่ไม่มีอาการเจ็บอะไรเลยนะคะ อยากรู้ว่าจะอันตรายมากไหม
    - ช่วงนี้หนูรู้สึกแน่นช่วงอกค่ะ หายใจไม่ค่อยสะดวก บางทีต้องหายใจลึกๆ เวลาไอก็เหมือนไอตันๆ แต่ว่าไม่มีเสลดหรือเสมหะเลยนะคะ ไอแบบแห้งๆอะค่ะ อยากทราบสาเหตุว่าเป็นอะไรค่ะ บางครั้งทานข้าวก็เหมือนข้าวจุกๆอยู่ลองกินน้ำแล้วก็ไม่ดีขึ้นค่ะ

    รบกวนลุงหมอตอบกลับหนูด้วยนะคะ
    จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
    ลุงหมอ
    ลุงหมอ
    ผู้ก่อตั้ง
    ผู้ก่อตั้ง


    จำนวนข้อความ : 6844
    Join date : 20/11/2010

    ปรึกษาปัญหาสุขภาพค่ะ Empty Re: ปรึกษาปัญหาสุขภาพค่ะ

    ตั้งหัวข้อ  ลุงหมอ Sat Aug 25, 2012 7:11 pm

    supv พิมพ์ว่า:รบกวนถามนิดนึงนะคะ
    - คือหนูเป็นริดสีดวงมาหลายปีแล้ว แต่ว่าไม่มีอาการเจ็บเลย แต่ว่ามีเหมือนติ่งเนื้อออกมา เวลาถ่ายก็ไม่เจ็บแต่ว่าเลือดออกเป็นประจำ ไปหาหมอหมอก็ให้ยามาทา หมอบอกว่าเป็นเพราะเหมือนแผลฉีก หนูเป็นคนติดนั่งโถส้วมแบบยองๆ เวลาปัสสาวะบางทีเลือดก็ออกค่ะ หยดเป็นน้ำเลยแต่ถ้าถ่ายหนักก็จะมีเป็นลิ่มเลือดด้วยค่ะ แต่ไม่มีอาการเจ็บอะไรเลยนะคะ

    - ช่วงนี้หนูรู้สึกแน่นช่วงอกค่ะ หายใจไม่ค่อยสะดวก บางทีต้องหายใจลึกๆ เวลาไอก็เหมือนไอตันๆ แต่ว่าไม่มีเสลดหรือเสมหะเลยนะคะ ไอแบบแห้งๆอะค่ะ อยากทราบสาเหตุว่าเป็นอะไรค่ะ บางครั้งทานข้าวก็เหมือนข้าวจุกๆอยู่ลองกินน้ำแล้วก็ไม่ดีขึ้นค่ะ

    รบกวนลุงหมอตอบกลับหนูด้วยนะคะ
    จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ

    Very Happy Laughing Rolling Eyes คือหนูเป็นริดสีดวงมาหลายปีแล้ว อยากรู้ว่าจะอันตรายมากไหม ? Shocked Rolling Eyes Wink คนทานน้ำน้อย ท้องผูก ไม่ค่อยได้ขับถ่ายทุกวัน ริดสีดวง แน่นอน ถ้าเลือดออกมา สีแดงก็ไกล้ทวาร ถ้า เลือดเขา ดำ น่ากลัวว่า ออกมาจาก ลำใส กระเพาะ รวมกับขอเสียหลายวันก็ ดำ ต่อไปก็จะ มีโรค กระเพาะ และลำใส้ ถ้า ท้องผูก สารพิษไม่ได้ขับถ่ายออก โอกาศพัฒนา เป็นมะเร็ง? affraid ควบคุม อาหาร เช่นกล้วยน้ำว้า ผลไม้ที่มีกากใย ทุกวัน

    farao มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลให้เกิดก้อนริดสีดวงทวาร อาทิ ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) การออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยน้อย มีการเพิ่มของความดันภายในช่องท้องเป็นเวลานาน ตั้งครรภ์ กรรมพันธุ์ ไม่มีลิ้นในเส้นเลือดบริเวณทวารหนัก อายุ
    สาเหตุอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มความดันเลือดบริเวณทวารทำให้เป็นโรคริดสีดวง ได้แก่ ความอ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ
    ระหว่างตั้งครรภ์ ความดันจากตัวอ่อนในท้องและการเปลี่ยนแปลงฮอโมนมีผลทำให้เส้นเลือดริดสีดวงทวารมีขนาดใหญ่ขึ้น การคลอดมีผลเพิ่มความดันภายในช่องท้อง การผ่าตัดมักไม่จำเป็น อาการมักหายภายหลังคลอด

    sunny ทางที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคริดสีดวงทวารคือ ทำให้อุจจาระไม่แข็งและผ่านไปได้โดยง่าย ได้แก่ ถ่ายโดยไวเมื่อรู้สึกปวดอุจจาระ การออกกำลังกาย เช่น การเดิน การเพิ่มอาหารที่มีเส้นใย
    แนะนำให้ใช้เวลาน้อยขณะเบ่งถ่าย และหลักเลี่ยงการอ่านหนังสือขณะถ่าย

    Basketball การดูแล วัตถุประสงค์ เพื่อให้การขับถ่ายอุจจาระสะดวก ไม่ต้องเบ่งรุนแรง และเพื่อระงับอาการที่ก่อให้เกิดความรำคาญ
    วิธีการ
    1. เพิ่มอาหารที่มีเส้นใยมาก เช่น ผัก และผลไม้
    2. ทำให้อุจจาระนิ่มโดย ดื่มน้ำให้มากขึ้น และอาจให้ยาระบายร่วมด้วยถ้ามีอาการท้องผูก
    3. รักษาอาการและสาเหตุของท้องเสียถ้ามี
    4. ยาระงับอาการ ยาเหล่านี้ควรใช้เมื่อมีอาการและไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ยาที่ใช้ได้แก่ ยาสอดทวารหนัก, ยาขี้ผึ้งทวารหนัก, ยารับประทาน

    geek ต้องทำการผ่าตัดแต่อาจไม่หายขาดหากเรายังมีพฤติกรรมเดิมๆ จะทำให้กลับมาเป็นได้อีก

    90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่มีอาการเลือดออกทางทวารหนัก หรือถ่ายเป็นเลือดมักคิดว่าเป็นริดสีดวงฯ แต่อีกโรคหนึ่งที่ร้ายแรงกว่า และแอบแฝงอยู่ในอาการถ่ายเป็นเลือดด้วยเช่นกันคือ "โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก" ซึ่งหลายคนมักเข้าใจผิดว่าการถ่ายเป็นเลือดนั้น ต้องเป็นโรคริดสีดวงฯ และอาจรุนแรงถึงขั้นกลายเป็นมะเร็งได้ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ คนที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ต่างหา กจะมีภาวะเสี่ยงเป็นโรคริดสีดวงมากกว่าคนปกติ ดังนั้นอาการถ่ายเป็นเลือด จึงเป็นอันตรายร้ายแรงมากกว่าที่เราคิดไว้

    นพ.สุรพันธ์ อธิบายข้อแตกต่างระหว่างมะเร็งลำไส้ใหญ่กับโรคริดสีดวงทวารหนักว่า ริดสีดวงฯ เกิดจากหลอดเลือดดำในลำไส้ใหญ่โป่งพอง แต่มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากความผิดปกติของติ่งเนื้อตรงเยื่อบุผิวหนังของลำไส้ใหญ่ ซึ่งเกิดจากภาวะเซลล์ในร่างกายเสื่อม และได้รับสารพิษตกค้างในอาหารและติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นตั้งแต่ 1-2 เซนติเมตร ถ่ายอุจจาระมีเลือดปนออกมา เลือดออกทางทวารหนัก อุจจาระมีขนาดก้อนเล็กลงหรือมีปริมาณน้อยและปวดถ่ายบ่อยเหมือนถ่ายไม่สุด เพราะมีก้อนเนื้อมะเร็งกีดขวางอยู่ รวมทั้งมีอาการท้องผูกปวดท้องร่วมด้วย แต่เราสามารถสังเกตที่สีของเลือดที่ถ่ายออกมาได้ว่า ถ้าถ่ายเป็นมูกเลือดสีคล้ำ ๆ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที
    affraid โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงคือ คนที่มีอายุมาก กว่า 50 ปีขึ้นไป มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย และทานอาหารที่มีไขมันในปริมาณสูง ซึ่งอาจเป็นโรคมะเร็งลำไส้ได้

    ถ้าไม่อยากเสี่ยงเป็นริดสีดวงฯ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ คุณหมอสุรพันธ์ จึงแนะนำว่า ควรฝึกอุปนิสัยการถ่ายให้เป็นเวลา ไม่นั่งนานหรือเบ่งอยู่นานๆ พยายามอย่าให้ท้องผูก รับประทานอาหารประเภทผักผลไม้และดื่ม น้ำเปล่าให้มากๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอจะพบว่าช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น cheers

    jocolor จาก 1 ใน 3 ของผู้ที่ถ่ายเป็นเลือดมักเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ หากตรวจพบและทำการรักษาตั้งแต่ต้นจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ รู้แบบนี้แล้วใครที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือพฤติกรรมอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเสียก่อนจะสายเกินไป

    Rolling Eyes Wink เมื่อรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งในลำใส้ ก็หา ยอดพุทรา มาต้มทานต่างน้ำประจำ ร่วมกับ น้ำหมัก และ มหาบำบัติ น้ำหยด สำคัญควบคุม อาหาร ทานผลไม้มากๆ ที่มีกากใย? งดเว้น ฝาดจะท้องผูกเช่น ฝรั่ง? ใบขลู่ ที่คนอิสาน ทานกับลาบก็ ช่วยรักษาบรรเทาได้ดีครับ อาหารก็ ?1. กล้วย เป็นผลไม้ที่มีให้รับประทานตลอดทั้งปี ราคาถูก โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้าสุกจะมีสารเพกทินที่เป็นเมือกลื่นอยู่สูง จะช่วยรักษาโรคท้องเสียและท้องผูกด้วย แต่ถ้ากินมากไปอาจจะทำให้ท้องอืดได้

    2. มะละกอสุก ผลดิบคุณแม่จะเอามาทำส้มตำแซบๆ ก็ไม่ว่ากัน แต่เมื่อสุกแล้วมะละกอจะมีสารชนิดหนึ่งที่เป็นผลดีต่อระบบย่อยอาหาร แก้อาการท้องผูก เอาไว้ให้ลูกกินได้จ้ะ แต่ถ้ากินมากไปก็จู๊ดๆ ได้เหมือนกัน นี่แหละที่เขาบอกว่ามากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ได้ผล Wink

    3. มะม่วงสุก แม้ว่าทุกวันนี้จะมีมะม่วงให้กินได้ตลอดทั้งปี แต่โดยธรรมชาติมะม่วงจะออกผลในช่วงฤดูร้อน และถ้าได้กินมะม่วงสุกคาต้นล่ะก็หวานอร่อยกว่ามะม่วงนอกฤดู ถึงมะม่วงจะไม่ได้สรรพคุณช่วยย่อยโดยตรงแต่ก็มีสารเพกทินที่ทำให้อึ๊ของลูกนุ่มขึ้นจ้ะ

    4. แอปเปิ้ล ดูเป็นผลไม้ธรรมด๊า...ธรรมดาที่ไม่น่าจะเกี่ยวกับระบบของท้อง แต่แอปเปิ้ลมีสารเซลลูโลสมาก ช่วยบำรุงกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยแก้อาการท้องผูกได้ และกรดจากแอปเปิ้ลยังมีผลดีต่อการรักษาอาการท้องเสียด้วยนะ

    5. ส้ม อุดมไปด้วยวิตามินซี โพแทสเซียมและกรดโฟลิก ช่วยให้กระเพาะอาหารและลำไส้เคลื่อนตัว ลดอาการอาหารไม่ย่อย บำรุงกระเพาะอาหารและม้าม ถ้าดื่มน้ำส้มประจำจะช่วยให้ปัสสาวะได้ดี

    geek โยเกิต นมสด ทานเวลาท้องว่างๆนะครับ ช่วยได้ งดเค็ม มัน คาว ทานอาหารผลไม้ กล้วยสุก ต้องมีทุกๆวัน ช่สยได้ครับ น้ำหมัก น้ำหยด ช่วยดูแล และขับของเสีย พักเดียวก็ ร่างกายปกติละครับ คุมอาหารได้ น้ำหมัก ช่วยได้ครับผม cheers ลุงหมอ

      เวลาขณะนี้ Sat Apr 27, 2024 12:05 pm