ช่วยชี้แจงแถลงไขเพื่อเป็นธรรมทานแก่อนุชนด้วยครับผม
2 posters
รบกวนลุงหมอ (อีกแล้ว) ช่วยดูใช่พระสมเด็จปิลันทน์หรือเปล่า ??
divinityfair- สมาชิกทั่วไป
- จำนวนข้อความ : 10
Join date : 18/09/2012
ลุงหมอ- ผู้ก่อตั้ง
- จำนวนข้อความ : 6844
Join date : 20/11/2010
ไม่ใช่ ปิรันนะครับ นั่นเขา จะออกดำ เนื้อผงใบลานครับ ? สมเด็จหลังเบี้ย หรือ สมเด็ต เล็บมือ เนื้อ มวลสาร วัดระฆังเลยละ แก่ตังอิ้ว อายุ เกิน 100 ปี ละครับ ดูแล้ว ถ้า ไม่เอาประวัติ เอาคำพูดของเซียน มาพูด ละก็ ผมให้ถึงยุคสมเด็จเลยละ สมับ 50 ปีก่อน มีเกลื่อน แต่ ปัจจุบันไม่ค่อยเจอ เซียนบอกของเก้ ไม่มีประวัติ ? ไม่รู้เขาเกิดทัน และ ตามดู สมเด็จโต ตั้งแต่บวช ถึงมารณะภาพ หรือไร? พระเนื้อนี้ อายุประมาณนี้ เป็น สมเด็จ นอกพิมพิ์ นิยมครับผม จะก่อน หลัง ผมยืนยันไม่ได้? เกิดไม่ทันครับ แต่ ตรงใหน จุดใหนที่ เนื้อ มวลสาร อายุ ความเก่า? ที่ไม่ใช่ ของวัดระฆัง ถ้าไม่เอาขี้ปากเขามาพูด?
อย่าลืมนะครับว่า สมเด็จโต ไม่ได้สร้างพระแค่ 4 พิมพ์นิยม ที่เซียนปัจจุบัน ซื้อขายกันนะครับ ถ้าลุงหมอจะบอกว่า พระสมเด็จ วัดระฆัง หาง่ายที่สุดล่ะ จะว่าไง? ท่านสร้างมาก่อนมากมาย หลายๆ 10 พิมพ์ และ แต่ละครั้ง สร้างครั้งละ 84.000 องค์ แค่ พิมพ์ที่ เล่น หา แพงๆ นี่ก็มีเกลื่อนกราด ลองๆไปดู อีกมุม ของผู้สะสม นะครับ? ยุคของการสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง
หลังจากที่ได้สอนวิธีตรวจสอบพระสมเด็จวัดระฆังด้วยตนเองแล้ว (ตรวจสอบพระในยุคกลางถึงปลาย 2409-2415)ต่อมาเราจะมาศึกษาในเรื่องของยุคของการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังกันต่อ เพื่อให้เข้าใจว่า พระสมเด็จวัดระฆังไม่ได้สร้างแค่ครั้งเดียว โดยได้เขียนสรุปการสร้างแต่ละยุคและสุดท้ายจะชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของพระในยุคแรกและยุคกลาง (เนื่องจากเป็นการรวบรวมจากหนังสือหลายเล่มและนำมาสรุปคร่าวๆ หากท่านใดมีความรู้เพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นหรือให้คำชี้แนะซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง)
สมเด็จพุฒาจารย์(โต) สร้างพระพิมพ์ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2368 (อายุ 37 ปี) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระครูโต” และสร้างเรื่อยมาหลายบล็อกพิมพ์ ในขณะนั้นเรียกว่า “พระพิมพ์” ขนาดชิ้นฟัก มีขนาดต่าง ๆ ต่อมาเรียกพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นว่า “พระสมเด็จวัดระฆัง” เมื่อครั้งเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ทรงได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี”เมื่อปี พ.ศ. 2407 และได้เรียก “พระสมเด็จวัดระฆัง” เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
จากบันทึกตำนานเก่าแก่ และคำบอกเล่า ของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่ใกล้ชิดเจ้าประคุณสมเด็จฯ เกี่ยวกับการสร้างพระพิมพ์ ประกอบกับมีคำจารึกการสร้างพระพิมพ์ ไว้ข้างฐานรูปหล่อท่านั่งเนื้อสำริดของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ขนาดต่าง ๆ ที่มีผู้ใจบุญเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ในสถานที่หลายแห่ง สอดคล้องกับคำบอกกล่าวของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ในสมุดโบราณ
จากหลักฐานและความเป็นมา การสร้างพระพิมพ์ เชื่อได้ว่าเจ้าประคุณสมเด็จ สร้างอยู่ 3 แผ่นดิน หรือ 3 ยุคสมัยตั้งแต่รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 สร้างครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2368 จนถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สร้างครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ศ. 2414 รวมการสร้างพระพิมพ์ประมาณ 14 ครั้ง และแบ่งออกเป็น 3 ยุค ดังนี้
ยุคต้น สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ตั้งแต่ พ.ศ. 2368 –2390 (ครองราชย์ พ.ศ. 2367 - 2394)
ยุคกลาง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ตั้งแต่ พ.ศ. 2399 –2411 (ครองราชย์ พ.ศ. 2394 - 2411)
ยุคปลาย สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่ พ.ศ. 2412 –2414 (ครองราชย์ พ.ศ. 2411 - 2453)
มีรายละเอียดการสร้างพระพิมพ์ หรือพระสมเด็จ ดังนี้
ยุคต้น ในรัชกาชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3 )
1. ปี พ.ศ. 2348 สร้างที่ระลึกงานฉลองสมณศักดิ์ เป็น “พระครูโต”
2. ปี พ.ศ. 2378 สร้างเป็นที่ระลึกในการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระปริยัติธรรม”
3. ปี พ.ศ. 2379 สร้างเป็นที่ระลึกให้แก่ผู้บริจาคเงินสร้างพระพุทธไสยาสน์
4. ปี พ.ศ. 2381 สร้างเป็นที่ระลึกให้งานทำบุญครบ 51 ปี ขณะดำรงตำแหน่งสมณศักดิ์ พระปริยัติธรรม
5. ปี พ.ศ. 2386 สร้างเป็นที่ระลึกในงานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระราชปัญญาภรณ์”
6. ปี พ.ศ. 2387 สร้างเป็นที่ระลึกให้แก่ผู้บริจาคเงินบำรุงวัดระฆัง
7. ปี พ.ศ. 2390 สร้างเป็นที่ระลึกในงานทำบุญครบรอบ 60 ปี เป็นที่ “พระเทพกวีศรีวิสุทธินายก”
ซึ่งการสร้างแต่ละครั้งมีจำนวนไม่มาก เป็นพิมพ์ใหญ่ และหลายพิมพ์ทรง เป็นพระเนื้อขาวแก่ปูน พิมพ์ใหญ่ไม่มีเส้นกรอบกระจก หรือเส้นบังคับพิมพ์
ยุคกลาง ในสมัยรัชกาลสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4)
1. ปี พ.ศ. 2399 สร้างให้โยมพระบิดามารดา เพื่อแทนคุณ ขณะดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระธรรมกิติโสภณ” เป็นพิมพ์ปรกโพธิ์
2. ปี พ.ศ. 2399 สร้างเป็นที่ระลึกในงานสร้างพระบูชา นามว่า “พระหาพุธพิม”
3. ปี พ.ศ. 2407 สร้างเป็นที่ระลึกในงานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นที่ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังษี” เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
4. ปี พ.ศ. 2409 สร้างในขณะดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี” เริ่มสร้างที่จำนวน 84,000 องค์ตามเจตนารมณ์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา โดยแม่พิมพ์ของช่างทองหลวง “หลวงวิจารณ์เจียรนัย”
5. ปี พ.ศ. 2411 สร้างในขณะดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต เป็นพิมพ์ใหญ่อกวี
ยุคปลาย ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
1. ปี พ.ศ. 2412 สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ แม่พิมพ์หลวงวิจารณ์เจียรนัย
2. ปี พ.ศ. 2414 สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ (ลงรักปิดทอง) สร้างถวายแก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ข้อเปรียบเทียบความแตกต่างพุทธลักษณะพระที่สร้างในยุคต้น ยุคกลาง และยุคปลาย
http://www.9pha.com/?cid=121136
และ ผู้รวมรวมแบบ พิมพ์ http://luangpoosi.igetweb.com/index.php?mo=12&catid=120999
แค่นี้ก็ ปวดหัว ละครับ ลองๆออก นอกกรอบดู นะครับ ลุงหมอ
อย่าลืมนะครับว่า สมเด็จโต ไม่ได้สร้างพระแค่ 4 พิมพ์นิยม ที่เซียนปัจจุบัน ซื้อขายกันนะครับ ถ้าลุงหมอจะบอกว่า พระสมเด็จ วัดระฆัง หาง่ายที่สุดล่ะ จะว่าไง? ท่านสร้างมาก่อนมากมาย หลายๆ 10 พิมพ์ และ แต่ละครั้ง สร้างครั้งละ 84.000 องค์ แค่ พิมพ์ที่ เล่น หา แพงๆ นี่ก็มีเกลื่อนกราด ลองๆไปดู อีกมุม ของผู้สะสม นะครับ? ยุคของการสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง
หลังจากที่ได้สอนวิธีตรวจสอบพระสมเด็จวัดระฆังด้วยตนเองแล้ว (ตรวจสอบพระในยุคกลางถึงปลาย 2409-2415)ต่อมาเราจะมาศึกษาในเรื่องของยุคของการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังกันต่อ เพื่อให้เข้าใจว่า พระสมเด็จวัดระฆังไม่ได้สร้างแค่ครั้งเดียว โดยได้เขียนสรุปการสร้างแต่ละยุคและสุดท้ายจะชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของพระในยุคแรกและยุคกลาง (เนื่องจากเป็นการรวบรวมจากหนังสือหลายเล่มและนำมาสรุปคร่าวๆ หากท่านใดมีความรู้เพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นหรือให้คำชี้แนะซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง)
สมเด็จพุฒาจารย์(โต) สร้างพระพิมพ์ครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2368 (อายุ 37 ปี) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระครูโต” และสร้างเรื่อยมาหลายบล็อกพิมพ์ ในขณะนั้นเรียกว่า “พระพิมพ์” ขนาดชิ้นฟัก มีขนาดต่าง ๆ ต่อมาเรียกพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นว่า “พระสมเด็จวัดระฆัง” เมื่อครั้งเจ้าประคุณสมเด็จ ฯ ทรงได้รับเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี”เมื่อปี พ.ศ. 2407 และได้เรียก “พระสมเด็จวัดระฆัง” เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
จากบันทึกตำนานเก่าแก่ และคำบอกเล่า ของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่ใกล้ชิดเจ้าประคุณสมเด็จฯ เกี่ยวกับการสร้างพระพิมพ์ ประกอบกับมีคำจารึกการสร้างพระพิมพ์ ไว้ข้างฐานรูปหล่อท่านั่งเนื้อสำริดของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ขนาดต่าง ๆ ที่มีผู้ใจบุญเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ในสถานที่หลายแห่ง สอดคล้องกับคำบอกกล่าวของพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ในสมุดโบราณ
จากหลักฐานและความเป็นมา การสร้างพระพิมพ์ เชื่อได้ว่าเจ้าประคุณสมเด็จ สร้างอยู่ 3 แผ่นดิน หรือ 3 ยุคสมัยตั้งแต่รัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 สร้างครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2368 จนถึงรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 สร้างครั้งสุดท้ายเมื่อ พ.ศ. 2414 รวมการสร้างพระพิมพ์ประมาณ 14 ครั้ง และแบ่งออกเป็น 3 ยุค ดังนี้
ยุคต้น สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ตั้งแต่ พ.ศ. 2368 –2390 (ครองราชย์ พ.ศ. 2367 - 2394)
ยุคกลาง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ตั้งแต่ พ.ศ. 2399 –2411 (ครองราชย์ พ.ศ. 2394 - 2411)
ยุคปลาย สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่ พ.ศ. 2412 –2414 (ครองราชย์ พ.ศ. 2411 - 2453)
มีรายละเอียดการสร้างพระพิมพ์ หรือพระสมเด็จ ดังนี้
ยุคต้น ในรัชกาชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3 )
1. ปี พ.ศ. 2348 สร้างที่ระลึกงานฉลองสมณศักดิ์ เป็น “พระครูโต”
2. ปี พ.ศ. 2378 สร้างเป็นที่ระลึกในการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระปริยัติธรรม”
3. ปี พ.ศ. 2379 สร้างเป็นที่ระลึกให้แก่ผู้บริจาคเงินสร้างพระพุทธไสยาสน์
4. ปี พ.ศ. 2381 สร้างเป็นที่ระลึกให้งานทำบุญครบ 51 ปี ขณะดำรงตำแหน่งสมณศักดิ์ พระปริยัติธรรม
5. ปี พ.ศ. 2386 สร้างเป็นที่ระลึกในงานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระราชปัญญาภรณ์”
6. ปี พ.ศ. 2387 สร้างเป็นที่ระลึกให้แก่ผู้บริจาคเงินบำรุงวัดระฆัง
7. ปี พ.ศ. 2390 สร้างเป็นที่ระลึกในงานทำบุญครบรอบ 60 ปี เป็นที่ “พระเทพกวีศรีวิสุทธินายก”
ซึ่งการสร้างแต่ละครั้งมีจำนวนไม่มาก เป็นพิมพ์ใหญ่ และหลายพิมพ์ทรง เป็นพระเนื้อขาวแก่ปูน พิมพ์ใหญ่ไม่มีเส้นกรอบกระจก หรือเส้นบังคับพิมพ์
ยุคกลาง ในสมัยรัชกาลสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4)
1. ปี พ.ศ. 2399 สร้างให้โยมพระบิดามารดา เพื่อแทนคุณ ขณะดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระธรรมกิติโสภณ” เป็นพิมพ์ปรกโพธิ์
2. ปี พ.ศ. 2399 สร้างเป็นที่ระลึกในงานสร้างพระบูชา นามว่า “พระหาพุธพิม”
3. ปี พ.ศ. 2407 สร้างเป็นที่ระลึกในงานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นที่ “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)พรหมรังษี” เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
4. ปี พ.ศ. 2409 สร้างในขณะดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ “พระสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี” เริ่มสร้างที่จำนวน 84,000 องค์ตามเจตนารมณ์ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา โดยแม่พิมพ์ของช่างทองหลวง “หลวงวิจารณ์เจียรนัย”
5. ปี พ.ศ. 2411 สร้างในขณะดำรงสมณศักดิ์ เป็นที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต เป็นพิมพ์ใหญ่อกวี
ยุคปลาย ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
1. ปี พ.ศ. 2412 สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ แม่พิมพ์หลวงวิจารณ์เจียรนัย
2. ปี พ.ศ. 2414 สร้างพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ (ลงรักปิดทอง) สร้างถวายแก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ข้อเปรียบเทียบความแตกต่างพุทธลักษณะพระที่สร้างในยุคต้น ยุคกลาง และยุคปลาย
http://www.9pha.com/?cid=121136
และ ผู้รวมรวมแบบ พิมพ์ http://luangpoosi.igetweb.com/index.php?mo=12&catid=120999
แค่นี้ก็ ปวดหัว ละครับ ลองๆออก นอกกรอบดู นะครับ ลุงหมอ
แก้ไขล่าสุดโดย ลุงหมอ เมื่อ Sat Sep 22, 2012 4:45 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
divinityfair- สมาชิกทั่วไป
- จำนวนข้อความ : 10
Join date : 18/09/2012
เป็นพระคุณมากครับ
มิน่าพิมพ์นี้ไม่ค่อยเจอกัน
ส่วนประวัติการสร้างก็พอได้ศึกมาคร่าวๆ ขอบคุณลุงหมอที่ช่วยยำ้
ขอบคุณมากนะครับ
มิน่าพิมพ์นี้ไม่ค่อยเจอกัน
ส่วนประวัติการสร้างก็พอได้ศึกมาคร่าวๆ ขอบคุณลุงหมอที่ช่วยยำ้
ขอบคุณมากนะครับ
ลุงหมอ- ผู้ก่อตั้ง
- จำนวนข้อความ : 6844
Join date : 20/11/2010
divinityfair พิมพ์ว่า:เป็นพระคุณมากครับ
มิน่าพิมพ์นี้ไม่ค่อยเจอกัน
ส่วนประวัติการสร้างก็พอได้ศึกมาคร่าวๆ ขอบคุณลุงหมอที่ช่วยยำ้
ขอบคุณมากนะครับ
ขอบคุณลุงหมอที่ช่วยยำ้ ชอบแต่ ไวไวครับ ไม่ชอบ ยำยำ
|
|